กรุงเทพฯ – นายกรัรฐมนตรี เตรียมร่วมประชุม World Economic Forum ระหว่าง 15-19 มกราคม 2567 ณ สมาพันธรัฐสวิส และจะใช้โอกานี้ พบกับบริษัทเอกชนชั้นนำของโลกหลายราย เน้นย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทย ในการขับเคลื่อนประเด็นสำคัญร่วมกับผู้นำทั่วโลก
การประชุม World Economic Forum (WEF Annual Meeting) ประจำปี 2567 เป็นครั้งที่ 54 จะจัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ ‘Rebuilding Trust’ เน้นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่ออนาคต ความไว้เนื้อเชื่อใจในสังคม และระหว่างประเทศต่าง ๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายของโลกปัจจุบัน
ซึ่งการเข้าร่วมการประชุม WEF ของประเทศไทย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ครั้งนี้ นับเป็นการเข้าร่วมระดับผู้นำของไทยในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 ถือเป็นการเยือนภูมิภาคยุโรปครั้งแรกของนายเศรษฐา นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะตอกย้ำความพร้อมของไทย ในการร่วมขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของโลก และใช้โอกาสนี้พบปะหารือกับ ผู้นำทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจากทั่วโลก
โดยนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุม 3 รายการ ได้แก่
1.กล่าวเปิดการเสวนา Country Strategy Dialogue (CSD) on Thailand
2.การเสนอโครงการ Thailand Landbridge : Connecting ASEAN with the World
3.ร่วมเสวนา Learning from ASEAN ซึ่งจะมีผู้นำไทย เวียดนาม และกัมพูชา เข้าร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้ ผลักดันบทบาทของไทย ในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือในโลก การส่งเสริมการค้าการลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนผ่านพลังงาน รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรม EVs อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่ยั่งยืน เศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริมความเชื่อมโยงผ่านโครงการ Landbridge ให้แก่ผู้นำและผู้แทนระดับสูงจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม วิชาการ และสื่อชั้นนำต่าง ๆ ที่เข้าร่วม เพื่อนำผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมกลับมาให้คนไทย
เตรียมพบบริษัทเอกชนชั้นนำของโลก ดึงดูดการค้า-การลงทุน
ในระหว่างการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2567 ณ สมาพันธรัฐสวิส นี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดพบหารือผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกหลายราย อาทิ
ผู้บริหารบริษัทด้านเทคโนโลยี และ Solutions, Dubai Port World บริษัทท่าเรือและขนส่ง, บริษัทด้านการเงิน การธนาคาร Standard Chartered, DKSH ผู้ให้บริการด้านการขยายตลาด,
Telenor บริษัทด้านโทรคมนาคม. Coca Cola หนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก, Nestlé บริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่ม, บริษัทด้านยาและวัคซีน และบริษัทด้านธุรกิจ Delivery ฯลฯ
รวมถึงพบปะบุคคลสำคัญ อาทิ นายมาทีอัส คอร์มันน์ (Mathias Cormann) เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD นาย Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร WEF และผู้บริหารของ World Bank
เชื่อมั่นว่า การหารือเหล่านี้ จะนำมาซึ่งการค้าและลงทุน สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาลให้ไทย ในสาขาการค้าการลงทุนที่สำคัญ ซึ่งบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่จะพบหารือกับนายกรัฐมนตรี
