X

‘ส.อ.ท.’ ย้ำ ช่องปรับโครงสร้างค่าไฟ ปี 67 ไม่เกิน 3.60 บาท/หน่วย ระยะยาวไม่เกิน 3 บาท/หน่วย

กรุงเทพ – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แนะ วิธีปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า ระยะเร่งด่วน กลางยาว ที่ต้นเหตุ โดยระยะเร่งด่วน ให้ทำงานเชิงรุกเพื่อลดค่าเอฟที ให้ค่าไฟฟ้าปีนี้ ไม่เกิน 3.60 บาท/หน่วย  ส่วนระยะกลางและยาว  ให้เร่งเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เปิดตลาดเสรีทั้งไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ และลดการผูกขาด ให้ค่าไฟฟ้าไม่เกิน 3 บาท/หน่วย

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำเสนอทางออกค่าไฟฟ้า ด้วยการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ พุ่งเป้าหมาย ค่าไฟฟ้า ปี 2567 ต้องไม่เกิน 3.60 บาท/หน่วย และในระยะกลาง/ยาว ค่าไฟฟ้าไม่เกิน 3 บาท/หน่วย ดังนี้

การแก้ปัญหาเร่งด่วน เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft.) เพื่อให้ค่าไฟฟ้า ปี 2567 ไม่เกิน3.60 บาท/หน่วย
1.การขับเคลื่อนกลไกเชิงรุก ด้วยแนวทางการบริหาร คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เชิงรุก โดยยึดประโยชน์ ค่าครองชีพของประชาชน และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เป็นที่ตั้ง
♦ การช่วยภาคประชาสังคม รัฐต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ อย่าผลักภาระมาให้ภาคธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขัน
♦ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) = ครม.เศรษฐกิจด้านพลังงาน ควรประสานแนวทางการปรับลดค่าพลังงานและค่าไฟฟ้า เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับนโยบายไปดำเนินการเชิงรุก ลดความตื่นตระหนก สับสน และตอบโจทย์ประชาชนได้ เช่น การประกาศ ค่า Ft.
♦ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) การพิจารณาค่า Ft. ขาดการปรับปรุงข้อมูลค่าพลังงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ความถูกต้อง ความโปร่งใสของข้อมูลที่นำมาใช้พิจารณา เปิดเผย ตรวจสอบได้หรือไม่  ค่า Ft. เผื่อปลอดภัยไว้ก่อนจนแพงเกินควรหรือไม่  การเปิดรับฟังความเห็น ค่า Ft เนื้อหาเข้าใจยาก ขาดการมีส่วนร่วมในวงกว้าง ตั้งธงไว้แล้วหรือไม่

2.ควรสร้างความเข้มแข็งให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในทุกมิติ  โดยช่วยเพิ่มสภาพคล่องของ กฟผ. เช่น การชะลอส่งเงินเข้าคลัง หรือ ออกพันธบัตรรัฐบาล  ให้ กฟผ.ดูแลหน่วยงาน System Operator (S.O.) เช่นเดิม การสรรหา ผู้ว่าฯ กฟผ.ปราศจากการแทรกแซง

3.กำลังการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการ และผลักดันส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ลดการใช้พลังงาน ลดการนำเข้าฟอสซิล
♦ ค่า AP (ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า) เร่งลด Margin (การสำรอง) เพื่อยืดเวลา โดยสัญญาเดิม ยืดหยุ่นค่า AP (ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้า) สำหรับผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่(IPP) ส่วนสัญญาใหม่ ลดผลตอบแทนลง
♦ ไม่เร่งเพิ่มกำลังการผลิต (Supply) โดยทบทวนแผน NEP ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Carbon Neutrality (ความเป็นกลางทางคาร์บอน)
♦ เพิ่มความต้องการ (Demand) การใช้ไฟฟ้า
– สนับสนุน EV Bus & EV Truck โดยจัดทำมาตรการส่งเสริมการผลิตและการใช้ เหมือนกับมาตรการ Subsidy (อุดหนุน) ยานยนต์ไฟฟ้า ในปัจจุบัน
– ส่งเสริมการใช้ Heat Pump ในโรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายการใช้ เชื้อเพลิง และบำรุงรักษาได้ง่าย

4.ส่งเสริม และปลดล็อกพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ให้สะดวกและเป็นธรรม
♦ สำหรับภาคครัวเรือน : ผลักดันมาตรการทางการเงินและการคลัง เพื่อจะสนับสนุนคนติดตั้ง Solar Rooftop
♦ สำหรับภาคธุรกิจ : เนื่องจากธุรกิจ (โรงงาน/โรงแรม/โรงพยาบาล ฯลฯ) ที่ติดตั้ง Solar Rooftop กำลังผลิตเกิน 1 เมกะวัตต์ จะต้องขอใบอนุญาต รง.4 ใหม่ จึงควรผลักดันให้เกิดการปลดล็อก รง.4 เพื่อให้สามารถติดตั้ง Solar Rooftop ได้
♦ สนับสนุนการทำ Net Billing ในราคาที่สมเหตุผล

5.ปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ (NG) ลด Margin NG ของ SPP (ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก) / ลดค่าผ่านท่อ NG ให้เป็นธรรม และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดหา NG/LNG (ก๊าซธรรมชาติเหลว)
♦ กำหนดราคาขายก๊าซผู้ผลิตไฟฟ้าทุกประเภท (IPP SPP IPS) ให้เป็นราคาเดียวกันกับ IPP
♦ ทบทวนค่าผ่านท่อ NG ให้เป็นธรรม อัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยเฉพาะ ท่อ NG ที่คุ้มค่าการลงทุนแล้ว
♦ นำเข้า LNG จากประเทศที่มีราคาถูกและเพิ่มการนำเข้า NG จากพม่าให้มากที่สุด
♦ LNG นำเข้าจากประเทศใหม่: สนับสนุนเรื่องธุรกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศและการจัดหาผู้รับประกันภัยสินค้าทางทะเล

รองประธาน ส.อ.ท. ยังเสนอแนะถึง การแก้ไขปัญหาระยะกลางและยาว เพื่อค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 3 บาท/หน่วย ว่า

1.ให้เร่งเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา (OCA : Overlapping Claims Area) โดยยึดหลักความมั่นคงทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความมั่นคงเรื่องเขตแดน
♦ ประโยชน์ทางเศรษฐกิจควรจะรวมเรื่องความมั่นคงทางพลังงานจากทรัพยากรใน OCA ด้วย
♦ Oil and Gas supply security (การรักษาความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานน้ำมันและก๊าซ) ไม่ถูกกระทบจากปัญหาความขัดแย้งของภูมิรัฐศาสตร์
♦ มูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ ที่จะช่วยชดเชย ต้นทุนพลังงานของไทยในภาวะน้ำมันแพง
♦ ต้องรีบนำขึ้นมาใช้ เพราะระยะยาว เมื่อมีการพัฒนาพลังงานทางเลือกและพลังงานหมุนเวียนได้เต็มที่ มูลค่าของน้ำมันและก๊าซจะลดลง/หายไป

2.เร่งเปิดระบบตลาดเสรี ทั้งไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ และลดการผูกขาดใด ๆ
♦ สำหรับการเปิดตลาดไฟฟ้าเสรี
▪ภาครัฐ ต้องมีระบบ Smart Grid & Smart Meter
▪เปิดให้มีการขายไฟฟ้าแบบ P2P และ Net Meterin
▪เปิดให้บุคคลที่สาม (TPA) ใช้โครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ ในอัตรา Wheeling Charge (อัตราสำหรับการซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้า) ที่เหมาะสมและเป็นธรรม
♦ TPA ท่อส่ง NG และ LNG Terminal (รอยืนยัน)
▪เงื่อนไขปัจจุบัน เหมาะกับผู้ใช้ NG รายใหญ่  (EGAT/IPP/SPP) ทำให้ผู้ใช้ NG รายย่อยขาดโอกาส
▪TPA ยังไม่ครอบคลุมถึงท่อจัดจำหน่าย ทำให้ผู้ใช้ NG รายย่อย ภาคอุตสาหกรรม ไม่สามารถซื้อNG จาก Shipper รายใหม่ ๆ ได้

จึงเสนอให้ ปรับแก้ TPA code ให้ครอบคลุมถึงระบบท่อย่อย และปรับแก้ข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างสถานี LNG ระบบท่อหลักและระบบท่อย่อยกับผู้นำเข้า ให้ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับสถานการณ์

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"