กรุงเทพฯ – ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวน 3,600,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปี 2567 จำนวน 1.2 แสนล้านบาท) พร้อมปรับปรุงปฏิทินงบฯ
วันที่ 16 มกราคม 2567 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวน 3,600,000 ล้านบาท และการปรับปรุงปฏิทินงบฯ ปี 2568 คาดว่ารัฐบาลจะจัดเก็บรายได้รวม จำนวน 3,454,400 ล้านบาท เมื่อหักการคืนภาษีของ กรมสรรพากรและอื่น ๆ คงเหลือรายได้สุทธิจำนวน 2,887,000 ล้านบาท
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1.โครงสร้างงบประมาณ ประกอบด้วย
1)รายจ่ายประจำ 2,713,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 180,873.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.14 และคิดเป็นส่วนร้อยละ 75.38 ของวงเงินงบประมาณ เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 72.78
2)รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ไม่มีรายการที่ต้องเสนอตั้งงบฯ (ปีงบประมาณ 2567 ตั้งบประมาณไว้ 118,361.1 ล้านบาท)
3)รายจ่ายลงทุน 742,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 จำนวน 24,577.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.42 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.62 ของวงเงินงบประมาณรวม เท่ากับสัดส่วนต่องบประมาณของปีงบประมาณ 2567
4)รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 144,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีงบประมาณ 2567 จำนวน 25,680 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.70 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4 ของวงเงินงบประมาณรวม เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งมีสัดส่วยร้อยละ 3.40
2.รายได้สุทธิ 2,887,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 จำนวน 100,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.59
3.งบประมาณขาดดุล 713,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 จำนวน 20,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.89 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.56 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งนับว่าลดลงจากปีงบประมาณ 2567 ซึ่งก่อนหน้านี้มีสัดส่วนที่ร้อยละ 3.64
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงต่อว่า ครม.ยังมีมติเห็นชอบ การปรับปรุงปฏิทินงบฯ ปี 68 เนื่องจาก ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการนำนโยบายของรัฐบาลมากำหนดเป็นจุดเน้น ที่ต้องดำเนินการในปีงบประมาณ 68 และใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดทำแผนงาน/โครงการรองรับต่อไป กำหนดตัวชี้วัดในการดำเนินแผนงาน/โครงการที่ชัดเจน สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม และกรณีจะเพิ่มหรือลดงบประมาณในรายการใด ต้องสามารถอธิบายเหตุผล และความจำเป็นได้อย่างชัดเจน
ให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด สามารถจัดทำข้อเสนอโครงการที่จะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ให้สอดคล้องกับข้อเสนอของการกระจายอำนาจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานเชิงพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ซึ่งด้วยหลักการและเหตุผลทั้ง 2 ข้อข้างต้นนี้ จึงได้มีการเสนอปรับปรุงปฏิทินงบฯ ปี 68
โดยมีกรอบเวลาที่สำคัญ อาทิ
– 26 มี.ค.67 ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบรายละเอียด พร้อมแนวทางการปรับปรุงรายละเอียด
– สำนักงบประมาณ (สปง.) ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นการจัดทำงบประมาณ และจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย
– 28 พ.ค.67 ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 68 และเอกสารประกอบงบประมาณ และนำเสนอสภาผู้แทนราษฎร
– 5-6 มิ.ย.67 สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 68 วาระที่ 1
– 17 ก.ย.67 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ปี 68 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศบังคับใช้กฎหมายต่อไป
