นายกรัฐมนตรี พอใจ นำร่องพานักธุรกิจรายใหญ่จากส่วนกลางร่วมลงพื้นที่พบผู้ประกอบการรายย่อยที่ จ. เชียงใหม่ ช่วยเปิดตลาด เตรียมขยายผลสู่ภาคพื้นที่อื่น
วันที่ 21 มกราคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งล่าสุดนี้ว่า เป็นครั้งแรกที่นำนักธุรกิจลงมา ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย ที่สละเวลามาพูดคุยให้ความรู้กับนักธุรกิจรายใหญ่ รายกลาง รายย่อยที่เรียนกับหลักสูตรรวมมิตร ขอบคุณประชาชนที่ให้โอกาสผู้ประกอบการที่จะมาช่วยในระยะยาว ซึ่งเน้นถึงความยั่งยืน ที่ไม่ใช่แค่ซื้อของไปแล้วก็จบ แต่อยากให้ภาคเอกชนช่วยไปเปิดตลาดให้แก่สินค้าที่ดีหลายอย่าง ซึ่งหากมีปัญหาอะไรเฉพาะกิจ เชื่อมั่นว่าภาคธุรกิจหลายท่านก็ยินดี
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) พบชาวเขาที่ปลูกกาแฟอยู่แล้ว มีกาแฟเหลืออยู่จำนวนมาก ซึ่งภาคธุรกิจก็จะรับซื้อต่อไป จึงเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วย อยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นอีกบ่อย ๆ จะได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และมีปัญหาอะไรก็ได้ช่วยเหลือกัน
ข่าวน่าสนใจ:
การดำเนินการลักษณะดังกล่าวสามารถต่อยอดไปในพื้นที่ภาคอื่น ๆ ได้ด้วย อยากจะไปทําในทุกพื้นที่ ทั้งภาคอีสานและภาคใต้ด้วย
การมีหลักสูตรรวมมิตรนั้น มีปีละหน แต่ก็ทราบว่ามีหลักสูตรอื่น ๆ อีกที่สามารถทำได้ลักษณะนี้เช่นกัน เช่น วปอ. หรือหลักสูตรอื่น ๆ จึงอยากให้ขยายแนวทางในการมาลงพื้นที่เช่นนี้กับหน่วยงานรัฐอื่น ๆ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ที่ดูแลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
อยากจะเปิดให้โอกาสให้นักธุรกิจหรือนักเรียนที่ร่วมเรียนหลักสูตรเหล่านี้ เข้ามามีส่วนร่วมในการได้พบปะกับประชาชนด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการขอใบอนุญาตจาก คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า จะดำเนินการให้ต่อไป ส่วนเรื่องเปิดตลาด ผู้ประกอบการรายใหญ่รับไปช่วยดูให้ จณะที่เรื่องแหล่งเงินทุน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ร่วมลงพื้นที่ด้วยจะดูแลด้วยเช่นกัน
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นในจังหวัดเชียงใหม่ที่ไ้ด้สั่งการให้ดูแลอย่างจริงจังว่า เมื่อเช้าพบว่าค่าฝุ่นดีขึ้น แต่ยังไม่นิ่งนอนใจ ถ้าเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว ถือว่าดีขึ้นมาก ยืนยันรัฐบาลและหน่วยงานประสานงานกันต่อเนื่องพยายามเต็มที่ให้ดี ซึ่งตอนนี้ลดลงไปกว่า 4-5 เท่าแล้วในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นเรื่องที่น่าชื่นใจและให้ทำต่อไป ขณะที่สถานการณ์ฝุ่นในกรุงเทพฯ ก็ยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งจะแก้ไขปัญหา มีแผนบริหารจัดการต่อไป
สำหรับประเด็นศาลปกครองเชียงใหม่พิพากษา กรณีภาคประชาชนและนักวิชาการฟ้องหน่วยงานรัฐ ละเลยแก้ปัญหา PM2.5 ล่าช้า นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องทําตามคําสั่งแน่นอน โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมา และปรับปรุงแผนตามที่ประชาชนขอมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: