กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา หารือเดินหน้ากระชับความร่วมมือตามแนวชายแดน เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน ความมั่นคงทางพลังงาน แก้ปัญหา PM2.5 อาชญากรรม ท่องเที่ยว และแรงงาน หลังพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.20 น. ณ บริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การต้อนรับ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล
ผู้นำไทยและกัมพูชา ร่วมตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า
จากนั้น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและภริยา ลงนามในสมุดเยี่ยม และชมของที่ระลึก ณ ห้องสีงาช้าง (ด้านนอก) ตึกไทยคู่ฟ้า ต่อมา เป็นการร่วมหารือเต็มคณะ ณ ตึกภักดีบดินทร์ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- ทีดีอาร์ไอ จัดเวิร์คชอป “ CONTENT CREATOR WORKSHOP: SYNERGY FOR CLEAN ENERGY”
- รมว.ท่องเที่ยว ชวนลอยกระทง "สีสันแห่งสายน้ำฯ" สร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- วธ.จัด“ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” น้อง“หมูเด้ง” Thai Cuteness ร่วมสร้างสีสัน
- ททท. จัดงานใหญ่ "วิจิตรเจ้าพระยา 2024" สวยงามตระการตา กระตุ้นการท่องเที่ยวส่งท้ายปีนี้
นายกรัฐมนตรี ยินดีกับความร่วมมือทวิภาคีของทั้งสองประเทศ ที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วครอบคลุมในหลายประเด็น นับตั้งแต่ที่หารือร่วมกันเมื่อครั้งที่ได้ไปเยือนกัมพูชาอยางเป็นทางการ เดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา และการเดินทางมาเยือนไทยครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะเป็นโอกาสที่ดีในการติดตามความคืบหน้าของแต่ละประเด็นร่วมกัน
ด้านนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทยและกัมพูชาเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์และความร่วมมือครอบคลุมทุกมิติมาอย่างต่อเนื่อง ผู้นำทั้งสองประเทศต่างมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและได้มีการหารือระหว่างกันในหลากหลายโอกาส ซึ่งการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ ไทยและกัมพูชาจะได้หารือและติดตามประเด็นความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้
ด้านความสัมพันธ์ นายกรัฐมนตรีขอบคุณสำหรับการสนับสนุนการเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ซึ่งไทยตั้งเป้าหมายที่จะเปิดในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 นี้ และพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่กัมพูชาในการเปิดสถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ณ จังหวัดสงขลา เช่นเดียวกัน ด้านนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการเปิดสถานกงสุลจะเปิดโอกาสให้ไทยและกัมพูชาได้ส่งเสริมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่มีร่วมกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ด้านการค้าขายและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนทวิภาคีให้มากขึ้น โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกการไปมาหาสู่ของประชาชน และการค้าตามแนวชายแดนให้มากขึ้น ลดการอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มนำไปสู่ปริมาณการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาให้มากขึ้น นอกจากนี้ กัมพูชายังขอให้ทั้งสองฝ่ายหารือเพิ่มเติมถึงแนวทางการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษในชายแดนไทยและกัมพูชา บริเวณจังหวัดสระแก้วและปอยเปตของกัมพูชา
ด้านความมั่นคงพลังงาน ทั้งสองฝ่ายต่างมองว่าสถานการณ์โลกปัจจุบันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงานของทั้งไทยและกัมพูชา พร้อมตกลงที่จะกระชับความร่วมมือในด้านความมั่นคงด้านพลังงาน มีการตกลงที่จะหารือเพิ่มเติมเพื่อแสวงหาประโยชน์ร่วมกันจากทรัพยากรด้านพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนกันระหว่างทั้งสองประเทศ (Overlapping Claims Area: OCA)
ด้านการพัฒนาชายแดนและการท่องเที่ยว ไทยและกัมพูชาต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ซึ่งผู้นำทั้งสองฝ่ายพร้อมทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชนชายแดนทั้งสองฝั่ง ทั้งการประสานความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด การยกระดับจุดผ่านแดนระหว่างกัน รวมทั้งปรับปรุงข้อตกลงว่าด้วยการข้ามพรมแดน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายแดน โดยไทยได้เสนอให้หารือเพิ่มเติม เพื่อประสานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศในภูมิภาค ให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวในไทย และท่องเที่ยวต่อไปยังกัมพูชา และประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ได้ในคราวเดียว ด้านนายกรัฐมนตรีกัมพูชาพร้อมให้หารือร่วมกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคร่วมกัน
ด้านความร่วมมือประเด็นหมอกควันข้ามแดน (PM 2.5) ผู้นำไทยและกัมพูชาต่างเน้นย้ำถึงการแก้ปัญหาหมอกควัน เพื่ออากาศที่ดีของประชาชนไทยและกัมพูชา โดยพร้อมแบ่งปันข้อมูลและแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ สนับสนุนการจัดการปัญหาการเผาไหม้ทางการเกษตร พร้อมเสนอให้มีการขยายความร่วมมือต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกันระดับภูมิภาค
ด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะแก้ไขปัญหาเครือข่ายหลอกลวงทางไซเบอร์ โดยเพิ่มการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ทั้งการป้องกันการลักลอบค้ายาเสพติด สินค้าเถื่อน และการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ โดยผู้นำไทยและกัมพูชายืนยันที่จะการดำเนินการร่วมกันในการกวาดล้างผู้กระทำผิด พร้อมแสวงหาความร่วมมือที่ใกล้ชิดเพิ่มเติมระหว่างตำรวจไทยและกัมพูชาในการจับกุมผู้กระทำความผิด
ด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยทีให้ความสำคัญกับแรงงานกัมพูชา ในฐานะส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย พร้อมขอให้ไทยอำนวยความสะดวกแรงงานกัมพูชาที่ต้องการกลับไปเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งตรงกับปีใหม่ของกัมพูชาด้วย ด้านนายกรัฐมนตรีพร้อมนำไปพิจารณา และเน้นย้ำถึงการดูแลสวัสดิภาพของแรงงานในไทย และยินดีส่งเสริมให้แรงงานกัมพูชาเข้าถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการทางสังคมของไทยด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: