กรุงเทพฯ – ‘พ.ต.อ.’ ใน จว.นครนายก ที่ก้มลงกราบเท้า ‘พ.ต.ท.’ ซึ่งเป็นลูกน้องและเรียกว่า ‘นาย’ ถูกย้ายเข้า ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดระหว่างถูกสอบสั่งลูกน้องให้เก็บส่วย ผบ.ตร.ยืนยัน นิ้วไหนร้ายต้องตัดนิ้วนั้น
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ความคืบหน้า กรณีปรากฏคลิป บุคคลเพศชายคนหนึ่งก้มลงกราบนายตำรวจที่อายุน้อยกว่า ขณะกำลังเดินเข้ามาในห้องทำงานของสถานีตำรวจ และพร่ำพูดแต่คำว่า ว่า “นายครับ.. กราบขอโทษนายด้วยครับ” สร้างความตกตะลึงให้แก่บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ที่เห็นคลิป ต้องรีบพยุงชายคนดังกล่าวขึ้นมา
ต่อมา ทราบว่าบุคคลที่ก้มกราบนั้น เป็นตำรวจยศพันตำรวจเอก ในจังหวัดนครนายก ที่กราบนายตำรวจยศพันตำรวจโท ซึ่งเป็นลูกน้อง หลังถูกพันตำรวจโทตามภาพและพวกรวม 3 นาย ร้องเรียนไปยังต้นสังกัดว่า พันตำรวจเอกนายดังกล่าว สั่งให้เก็บส่วยจากประชาชนในพื้นที่ กระทั่งมีการเรียกสอบและปรากฎคลิป พันตำรวจเอกก้มกราบพันตำรวจโท
โดยมีการตั้งข้อสังเกต ถึงการกระทำอย่างไร้ศักดิ์ศรีของพันตำรวจเอกตามคลิปนายนี้ ทำไปเพื่อประชด หรือตั้งใจ หรือสติหลุด
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ต้องให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก เป็นผู้ตรวจสอบก่อนเบื้องต้น และรายงานขึ้นมาตามลำดับชั้น ตามขั้นตอน ต้องเก็บกวาดของตัวเองให้ดีได้มอบอำนาจในการบริหารให้แล้ว
ส่วนที่มีข้อมูลว่า พันตำรวจเอกนายดังกล่าว เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ในหลายพื้นที่ ผบ.ตร.บอกว่ายังไม่ทราบ ขอตรวจสอบก่อน ตำรวจกว่า 200,000 นาย จะรู้พฤติกรรมของทุกนายไม่ได้ แต่ถ้ามีพฤติกรรมไม่ดีก็ต้องตรวจสอบก่อน นิ้วไหนร้ายก็ต้องตัดนิ้วนั้น หมดยุคที่จะมารีดไถพี่น้องประชาชนแล้ว ปัจจุบันองค์กรที่จะตรวจสอบตำรวจมีเยอะอยู่แล้ว
ด้านพลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการแล้ว ซึ่งมีกรอบระยะเวลาตามกฎหมายอยู่ เบื้องต้น ให้ผู้ถูกร้องมาทำงานที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายกก่อน
เมื่อถามว่า หลักฐานหรือข้อเท็จจริงต่าง ๆ มักหายไป หลังการตรวจสอบ เพราะอาจจะมีการช่วยเหลือกันนั้น พลตำรวจโทอัคราเดช เลี่ยงว่า ถ้าใครมีหลักฐานเพิ่มเติมสามารถส่งมาให้ตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับรู้จักพันตำรวจเอกนายนี้ดี เพราะเคยเป็นลูกน้องของตนเอง ก่อนหน้านี้เป็นตำรวจที่ดี แต่ตอนนี้ไม่ทราบ จะต้องตรวจสอบย้อนหลัง
