กรุงเทพฯ – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกคำสั่งด่วนที่สุด! ห้ามให้ข่าวสื่อมวลชนที่ทำให้กระทบภาพลักษณ์ของตำรวจ ฝ่าฝืน จัดการเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและอาญา
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือบันทึกข้อความด่วนที่สุด ที่ 0001(ผบ)/48 ลงวันที่ 23 ก.พ. เรื่องกำชับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน ถึง รอง ผบ.ตร. และ จตช., ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จตช., ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า และ ผบก. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ระบุว่า
ด้วยปรากฏมีเหตุการณ์ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ตร. จากการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ของข้าราชการตำรวจ ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือคลุมเครือในประเด็นต่าง ๆ ต่อประชาชนและสังคมมากยิ่งขึ้น อันเกิดจากข้อมูลที่ไม่ชัดเจน หรือไม่สามารถเปิดเผยได้อย่างครบถ้วน เนื่องด้วยมีกระบวนการ ขั้นตอน หรือข้อจำกัดทางกฎหมาย ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
อีกทั้ง ในบางประเด็นมิได้มีความจำเป็น หรือเกิดประโยชน์สาธารณะ หรือเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานตามภารกิจของ ตร.แต่อย่างใด ซึ่ง ตร.มีระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 30 การปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ พ.ศ. 2556 ลง 11 มี.ค.56 ให้ข้าราชการตำรวจถือปฏิบัติไว้แล้ว
เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และเป็นแนวทางการปฏิบัติเดียวกัน ของการพิจารณาในการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ จึงกำชับ ดังนี้
1.ให้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจ ไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 30 ดังกล่าวข้างตันอย่างเคร่งครัด และให้ใช้วิจารณญาณ ประกอบดุลยพินิจที่มีพื้นฐานบนประโยชน์สาธารณะ และภาพลัษณ์ขององค์กรเป็นสำคัญ ไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะของการบ่อนทำลาย หรือมุ่งที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์หรือกระแสสังคมเพื่อบั่นทอนภาพลักษณ์ หรือการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ หรือสร้างสภาวะเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ส่วนตน
2.การให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ กรณีเหตุที่เกิดหรือประเด็นข้อพิพาท ข้อสงสัยในการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานของ ตร. หรือข้าราชการตำรวจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย หรือมากกว่านั้น ให้ผู้ได้รับแต่งตั้ง หรือรับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา หรือหัวหน้าหน่วยงาน ปฏิบัติหน้าที่เป็นโฆษกของหน่วยงาน เป็นผู้ให้ข่าวตามหน้าที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะกรณีเป็นคดีความที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง หรือคดีอาญาสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจในวงกว้าง และอาจส่งผลกระทบต่อ ตร. และให้ถือปฏิบัติตามสั่งการ ว.ตร. ด่วนที่สุด ที่ 001 (ศปก.ตร.)/91 ลง 7 มิ.ย.60
ทั้งนี้ หากพบการกระทำฝ่าฝืนในเรื่องที่กำชับไว้ดังกล่าว อันมีลักษณะเข้าข่ายของการกระทำที่เป็นความผิดวินัย หรืออาญา จะพิจารณาดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป เพื่อถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: