กรุงเทพฯ – ทนายเดชา พร้อมหลานอากู๋ แถลงแสดงความเสียใจ การเสียชีวิตของ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีบุกยึดบ้าน ยืนยันไม่ได้กดดัน มีแต่จะไกล่เกลี่ย ฟาดกลับทนายคู่กรณี ลูกความตาย เพราะตัวเองยุยง หรือเพราะสื่อ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ ‘อากู๋’ และนายซัน หลานชายของอากู๋ เจ้าของบ้านที่ถูกบุกรุกบ้าน และคู่กรณียื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งครอบครองปรปักษ์ แถลงข่าว ณ ที่ทำการทนายคลายทุกข์ หลัง 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกบ้าน ในซอยรามอินทรา 58 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร เสียชีวิต คาดว่าเกิดจากการฆ่าตัวตาย ภายในบ้าน ถนนเลียบวงแหวนกาญจนา
โดยกล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและญาติ เป็นอันดับแรก ระบุว่า เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น พร้อมจะรอเจรจาในชั้นศาล ยอมรับว่ายังโกรธอยู่ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็จะพูดคุยในครอบครัวกันอีกครั้ง
เปิดข้อความผู้ตาย ขอโทษ ขอให้ช่วยเอาบุญ
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตเคยติดต่อไปทางหลานอากู๋ และส่งข้อความขอโทษ แสดงความจริงใจ เสียใจในการกระทำ บอกว่า ถือว่าทำบุญให้คนป่วย ขณะที่อากู๋แจ้งว่า ขออโหสิกรรมให้ผู้ตาย
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่ทนายความของผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในเชิงใส่ร้ายอากู๋ ใส่ร้ายตนเอง และใส่ร้ายสื่อมวลชน ว่า อากู๋และทีมงานทนายเดชา สื่อ ร่วมมือกันใช้สื่อไปกดดันจนผู้ตายต้องจบชีวิตตัวเอง ซึ่งไม่เป็นความจริง
ฟาดกลับ ทนายคู่กรณี ยุแยงจนลูกความเครียดต้องจบชีวิตหรือไม่
นายเดชา ระบุว่า คดีนี้ ถ้าไม่มีนักข่าว คงไม่ได้บ้านคืน ไม่ใช่นักข่าวไปกดดันหรือบีบคั้นจนฆ่าตัวตาย แต่ทนายความคู่กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าหรือไม่ ที่ไปยุยงให้สู้คดี พร้อมถามกลับว่า ที่เขาต้องจบชีวิตตัวเองนั้น เป็นเพราะการยุแยงของตัวเองหรือไม่ การบุกรุกเข้าบ้านเป็นครั้งที่สอง นำป้ายที่มีข้อความว่า ‘บ้านนี้เป็นบ้านของ 1 ในผู้ต้องหา’ มาติด แบบนี้ถือว่าเป็นทนายที่มีคุณธรรมหรือไม่
“วันนี้ ลูกความคุณตาย เพราะตัวคุณเองหรือเพราะสื่อ เพราะคุณเป็นคนแนะนำให้เขาบุกรุกครั้งที่ 2 ใช่ไหม เพราะทนายความชุดแรกก็เจรจาไกล่เกลี่ยจนจะจบอยู่แล้ว ทนายคนเดิมก็ไม่ได้ให้ผู้ต้องหาบุกรุกเข้าไปแล้ว แต่วันดีคืนดี ก็ไปเปลี่ยนทนายความคนใหม่ ผมได้คุยกับกลุ่มผู้เสียหาย เขาก็บอกว่าเขาเชื่อทนายความคนใหม่ ฝากถึงทนายความว่า คุณธรรมต้องนำกฎหมาย”
นายเดชา ยังฝากถึงทนายความคู่กรณี ว่า เราเป็นทนายความ ควรประนีประนอมให้ดีที่สุด ไม่ใช่ให้ลูกความมีคดีความเพิ่ม ลูกความเสียไปแล้วท่านหนึ่ง ก็ยังจะไม่จบ เป็นทนายที่ดีหรือไม่ ควรทบทวนตัวเอง
ไม่ร่วมงานศพ
ด้านหลานอากู๋ ระบุว่า คงไม่ไปร่วมงานศพผู้เสียชีวิต เพราะไม่อยากให้รู้สึกแย่ไปกันใหญ่
ผู้ต้องหา ยินดีไกล่เกลี่ยทั้งหมด
นายเดชา ยังเปิดเผยความคืบหน้าของคดี ว่า อัยการนัดผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ไปพบในวันที่ 6 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. เมื่อผู้ต้องหาเสียชีวิตไป 1 คน การดำเนินคดีอาญาผู้ตายก็หมดไป หลังจากนี้ พนักงานอัยการอาจจะมีคำสั่งออกมา 3 แบบ คือ 1.อาจจะสั่งฟ้องทั้งหมด 2.สอบเพิ่มเติม 3.สั่งไม่ฟ้อง
ที่ผ่านมา สามีของหนึ่งในผู้ต้องหา และสามีผู้เสียชีวิต เป็นตัวแทนทั้ง 5 คน เข้ามาพูดคุยกับตนเอง ถึงความสำนึกผิดในการบุกรุกบ้านอากู๋ ต้องการแสดงความรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด และยังติดต่อไปยังอากู๋ ต้องการไปกราบขอโทษ แต่อากู๋ยังมีความขุ่นเคืองอยู่บ้าง ตอนนี้ อยู่ในกระบวนการไกล่เกลี่ยทั้งหมด
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ที่ :
