กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี สรุปผลการเยือน ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และเยอรมนี พบปะผู้นำต่างประเทศและภาคเอกชนรายใหญ่ระดับโลก ผลักดันการค้า การลงทุน เสนอจัดกิจกรรมระดับโลกที่ไทย
วันที่ 14 มีนาคม 2567 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สรุปผลการเดินทางเยือนต่างประเทศล่าสุด คือ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และเยอรมนี ว่า เริ่มจากการเข้าร่วมการประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย เป็นการสร้างความเชื่อมั่น สร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับทุกประเทศ และในระหว่างการประชุม ได้พบกับผู้นำหลายประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ลาว ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยังพบปะกับภาคเอกชนสำคัญระดับโลกของออสเตรเลีย 6 บริษัท
ต่อจากนั้น เดินทางไปกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ร่วมงาน มหกรรมท่องเที่ยวนานาชาติ ปี 2567 (International Tourism Borse (ITB) 2024) เพื่อประกาศให้โลกทราบว่า ปี 2568 ไทยจะผลักดันให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย ยกระดับอาหาร แฟชั่น ให้เป็นที่ยอมรับระดับโลก รวมทั้งได้พูดคุยกับมิชลินไกด์ และเริ่มพูดคุยกับบริษัทที่จะจัดกิจกรรมระดับโลก ได้แก่ ฟอร์มูลาวัน (Formula 1), เวิลด์ ฟู้ด เอ็กซโป (World Food Expo), Paris Fashion Week (ปารีส แฟชั่น วีค) ซึ่งจะจัดกิจกรรมเหล่านี้ต่อไป
ต่อมา เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสเพื่อพบกับ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประเด็นหลักของการพูดคุย คือ เรื่องข้อตกลงทางการค้า (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป และการยกเลิกตรวจลงตราเชงเก้น (วีซ่าเชงเก้น) ซึ่งไทยได้พูดคุยกับทุกประเทศในยุโรป เพื่อทำให้เกิดการสนับสนุนเรื่องเอฟทีเอ โดยการเดินทางเยือนยุโรปครั้งนี้ ได้พบกับเอกชนรายใหญ่ระดับโลก รวม 23 ราย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการไปเมืองคานส์ ว่า เพื่อร่วมงาน มหกรรมอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ (MIPIM) 2024
จากนั้น เดินทางกลับไปที่กรุงเบอร์ลิน พบปะเอกชนรายใหญ่ที่สำคัญ 7 ราย เช่น บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) และ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) และยังหารือทวิภาคีร่วมกับ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งได้เน้น 2 เรื่องสำคัญ คือ เอฟทีเอ และวีซ่าเชงเก้น
