พะเยา – ที่ประชุม ครม.นอกสถานที่ จ.พะเยา อนุมัติงบประมาณให้ จ.พะเยา และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 รวม 9 โครงการ วงเงิน 155 ล้านบาท และโครงการตามข้อเสนอภาคเอกชน อีก 4 โครงการ วงเงิน 145 ล้านบาท ศึกษาความเป็นไปได้สร้างสนามบินพะเยา ย้ำ ตั้งสำนักงานท่องเที่ยว จ.พะเยา ให้ได้ภายในไตรมาส 4 นี้
วันที่ 19 มีนาคม 2567 ณ บริเวณด้านหน้า หอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2567 ที่ จ.พะเยา
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ โครงการของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่) และจังหวัดพะเยา รวม 9 โครงการ กรอบวงเงิน 155 ล้านบาท และเห็นชอบในหลักการ โครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชนอีก 4 โครงการ กรอบวงเงิน 145 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีข้อหารือให้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งจัดทำสำนักงานท่องเที่ยวประจำจังหวัด และศึกษาถึงการประกาศให้ จังหวัดพะเยาเป็นพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อีกทั้งให้กระทรวงคมนาคม ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างสนามบินพะเยา ตามที่ได้มีการลงพื้นที่ไปเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำ ต้องตั้งสำนักงานท่องเที่ยวฯ ให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- พะเยา ล้อมจับขโมยในร้านข้าวมันไก่ชาวบ้านรุมสกรัมเลือดอาบทั่วตัว
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า ได้สั่งการให้กรมทางหลวง เร่งประสานกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการเรื่องขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับการขยายเส้นทางจราจร บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก จ.พะเยา และการใช้ประโยชน์ในพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าชายแดน ระหว่างประเทศไทย-ลาว ซึ่งปัจจุบันมียอดสั่งซื้อวัวเป็นจำนวนกว่า 100,000 ตัว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับเศรษฐกิจของภาคเหนือ
และเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการการผลิตลำไยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อให้ปริมาณการผลิตสมดุลกับความต้องการของตลาด ผลผลิตมีคุณภาพสูง มีระบบ Food Safety และมีการส่งเสริมผลิตภัณฑ์แปรรูปลำไยหลากหลายซึ่งจะทำให้ราคาลำไยมีประสิทธิภาพและไม่เกิดภาวะลำไยล้นตลาด
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตามที่มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการลดหรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผานั้น ปัจจุบันประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากการเผาของประเทศเพื่อบ้านอย่างต่อเนื่อง
โดยสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศตามพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อกำหนดนโยบายการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วง High season และขอให้เป็นไปตามข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) ระหว่างประเทศ รวมทั้งต้องสอดคล้องกับพระราชบัญญัติอากาศสะอาดที่กำลังจะผ่านวาระของสภาผู้แทนราษฎรด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้ กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งศึกษาความเป็นไปได้ ในการลงทุนและการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไทยกับกลุ่มประเทศแอฟริกา ซึ่งมีการเติบโตของประชากรสูง เช่น ประเทศไนจีเรีย ประเทศซิมบับเว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง มีแหล่งทรัพยากรมาก รวมทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานอีกด้วย
ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม อุทยานการเรียนรู้พะเยา (TK Park) ที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างอาชีพให้แก่เยาวชน มีการนำองค์ความรู้มาบ่มเพาะ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์กรความรู้ของกระทรวงมหาดไทยเร่งแก้ไขกฎเพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจและส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: