กรุงเทพฯ – กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ การันตี ผลตรวจข้าวสาร 10 ปี ไม่พบสารเคมีตกค้างหรือสารพิษจากเชื้อรา ส่วนคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ต่างจากข้าวสารที่จำหน่ายในท้องตลาด แต่มีสิ่งแปลกปลอมเกินมาตรฐาน
วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงผลการตรวจตัวอย่างข้าว 4 ตัวอย่าง โดยเป็นข้าวที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ 2 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 9 พ.ค.67 และข้าวที่กรมวิทย์ ซื้อจากร้านค้ารอบกระทรวงอีก 2 ตัวอย่าง
ในห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ที่ได้มาตรฐาน ด้วยระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO/IEC 17025 อันดับที่ 5 ของโลก และที่ 3 ของเอเชีย ที่มีความละเอียดแม่นยำสูงมาก
โดยตรวจสอบคุณภาพ 3 ด้าน พบว่า
1.ด้านกายภาพ สิ่งแวดล้อม ดูลักษณะสี กลิ่นของเมล็ดข้าว และดูสิ่งแปลกปลอม เช่น แมลง ซากแมลง ชิ้นส่วนแมลง หิน กรวด พบว่า
ตัวอย่างข้าวที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ มีสิ่งแปลกปลอมทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ส่วนใหญ่จะเป็นเศษของมอดทั้ง 3 ชนิดที่พบบ่อยในข้าวสาร มีเศษขาแมลงและมีมอดอยู่จำนวนเยอะกว่ามาก ทั้งนี้ มาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ.4000-2560 ระบุไว้ว่า ข้าวหอมมะลิไทยต้องปราศจากแมลงและไรที่มีชีวิต ดังนั้น ถ้านำมาตรฐานสินค้าเกษตรมาเทียบ ก็จะไม่ผ่าน 3 ตัวอย่าง คือ ข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ และข้าวเก่าในร้านค้า
2.ด้านความปลอดภัย ตรวจสารพิษจากเชื้อรา เช่น สารอะฟลาท็อกซิน ทั้ง 5 สารพันธุ์ สารตกค้างที่เหลือจากการรมข้าว สารเคมีที่มีข้อกำหนดต้องตรวจตามมาตรฐานการเกษตร 250 ชนิด การตรวจโลหะหนัก ไม่พบสารตกค้าง รวมถึงสารตกค้างของสารรมควัน และสารกำจัดศัตรูพืช 250 ชนิด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ใช้ตรวจ ส่วนการตรวจโลหะหนัก อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็นอันตราย มีความปลอดภัย แม้จะพบสารตะกั่ว แต่ก็พบน้อยกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ 0.2 อยู่ถึง 200 เท่า เช่นเดียวกับตรวจหาสารหนู ซึ่งน้อยกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ 0.2 ดังนั้น ด้านโลหะปนเปื้อนอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
3.ด้านคุณค่าทางโภชนาการ ที่ประกอบด้วยสารอาหารและแร่ธาตุ พบว่า
มีคุณค่าทางโภชนาการไม่แตกต่างกัน ทั้งวิตามินและแร่ธาตุ
“ยืนยันว่าการตรวจในครั้งนี้ เป็นผลตรวจอย่างตรงไปตรงมา โดยบุคลากรที่เชี่ยวชาญและมีความเป็นอิสระ ขอให้มั่นใจว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ตามมาตรฐาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องเป็นไปตามหลักการ โดยดำเนินงานด้วยความสุจริต ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวทิ้งท้าย
