กรุงเทพฯ – ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 6:3 รับคำร้องชี้ขาดคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน แต่เสียงข้างมากฉิวเฉียด 5:4 ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และมีมติ 8:1 ไม่รับคำร้องกรณี นายพิชิต ชื่นบาน เหตุลาออกไปแล้ว
วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมพิจารณาคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 40 คน ที่ร่วมกันเข้าชื่อส่งถึงประธานวุฒิสภา เพื่อส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ถึงสถานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน และตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของ นายพิชิต ชื่นบาน สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่
เนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้องที่ 1) นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน (ผู้ถูกร้องที่ 2) เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง ๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าผู้ถูกร้องที่ 2 ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุ ผู้ถูกร้องที่ 2 เคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7 (4)
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 มีคำสั่งรับคำร้องผู้ถูกร้องที่ 1 ไว้พิจารณา และให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 54
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย
นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์
นายอุดม รัฐอมฤต
นายสุเมธ รอยกุลเจริญ
มติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ไม่รับคำร้องกรณี นายพิชิต
สำหรับกรณีของผู้ถูกร้องที่ 2 (นายพิชิต ชื่นบาน) มีคำร้อง ลงวันที่ 23 พ.ค.2567 แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2567 ผู้ถูกร้องที่ 2 ได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (2) กรณีไม่มีเหตุที่จะต้องวินิจฉัยคดีต่อไปตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 51
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 มีคำสั่งไม่รับคำร้องเฉพาะส่วนของผู้ถูกร้องที่ 2 ไว้พิจารณาวินิจฉัย
ตุลาการเสียงข้างน้อย นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม
มติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้ ‘เศรษฐา’ หยุดปฏิบัติหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญ ยังพิจารณากรณีขอให้ผู้ถูกร้องที่ 1 (นายเศรษฐา ทวีสิน) หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ในชั้นนี้
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย
นายปัญญา อุดชาชน
นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม
นายวิรุฬห์ แสงเทียน
นายจิรนิติ หะวานนท์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: