นักคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ตัวเลขผู้สมัคร สว. พบ 53% ถูกเกณฑ์มาสมัคร ไม่เว้นกรุงเทพฯ ชี้ จ.ศรีสะเกษ จัดตั้งขนาดใหญ่ที่สุด ขณะ จ.มุกดาหาร พบความผิดปกติในแทบทุกกลุ่ม เรียกร้อง กกต.ตรวจสอบ
นายลอย ชุนพงษ์ทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ ผู้ทรงคุณวุฒิสหวิทยาการ ราชบัณฑิตยสภา วิเคราะห์ข้อมูลการเลือก สว.2567 จำนวน 200 คน จากผู้สมัครทั่วประเทศ 48,117 คน ในหัวข้อ ‘จับผิดเลือกตั้ง สว.20 กลุ่ม 928 อำเภอ 2 หมื่นผ่านรอบแรกไม่ต้องโหวต ทำไม?’ โดยพบประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
1.ไม่เห็นด้วย กรณีมีผู้สมัคร 10 คน จาก 7 อำเภอ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตก เพราะไม่มีคนมาสมัครกลุ่มอื่นเพื่อโหวตไขว้
ทั้งนี้ มีอำเภอที่ไม่มีผู้สมัครเลย คือ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน, อ.บึงโขงโหลง จ.บึงกาฬ และ อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี
อำเภอที่มีสมัครแค่กลุ่มเดียว และไม่เกิน 3 คนอย่าง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร มีผู้สมัครกลุ่มครู 3 คน และไม่มีกลุ่มอื่นเลย เช่นเดียวกับ อ.อุ้มผาง จ.ตาก มีผู้สมัคร 2 คน หรือ อีกหลายอำเภอ ที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว จะไขว้กับใคร กกต.ควรยกประโยชน์ให้ผู้สมัครเหล่านี้ ที่ตั้งใจต้องการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย ต้องให้ผ่านไปถึงรอบจังหวัด ไม่ใช่ปัดตก
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนที่มีผู้สมัคร 2 กลุ่ม ก็จะเป็นการเลือกกันพอเป็นพิธี มีแค่คะแนนเดียวก็ผ่าน จะเกิดการแลกคะแนนกัน มี 29 คน
2.วันแรก เลือกระดับอำเภอ รู้ชื่อผู้สมัครที่ผ่านแล้ว 20,815 คน เพราะมีผู้สมัครในแต่ละกลุ่มของอำเภอ ไม่เกิน 5 คน ผ่านฉลุยโดยไม่ต้องโหวต
3.วันแรก โหวตไขว้ระดับอำเภอ พอเป็นพิธี รู้ชื่อคนที่ผ่านแล้ว 10,897 คน เพราะมีผู้สมัครในกลุ่มนั้นของอำเภอ เหลือไม่เกิน 3 คน
4.วันที่ 2 โหวตระดับจังหวัด รู้ชื่อคนที่ผ่านแน่ ๆ แล้ว 828 คน จาก 268 ช่อง (ทั้งหมด 77 จังหวัด x 20 กลุ่ม = 1,540 ช่อง)
5.วันที่ 2 โหวตไขว้ระดับจังหวัด รู้ชื่อคนที่ผ่านแน่ ๆ แล้ว 149 คน จาก 41 จังหวัด เพราะทั้งจังหวัดมีคนสมัคร สว.ในกลุ่มนั้น ไม่เกิน 2 คน ผ่านฉลุย 4 รอบแรกเลย ทั้งประเทศนับได้ 98 ช่อง
นายลอย ยังระบุว่า เมื่อแยกผู้สมัครเป็นกลุ่ม ๆ และวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว พบว่า มีการจัดตั้งมากถึง 53% โดยพบมากในกลุ่มชาวนาและครู
จังหวัดที่มีความผิดปกติมาก (เทียบกับจำนวนประชากร)
อันดับ 1 จ.มุกดาหาร พบความผิดปกติในแทบทุกกลุ่ม
อันดับ 2 จ.นครนายก พบความผิดปกติในแทบทุกกลุ่มเช่นกัน ยกเว้นกลุ่มสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกลุ่มชาวนาใน อ.ปากพลีและองครักษ์ พบความผิดปกติ มากถึง 1,000 %
อันดับ 3 จ.อ่างทอง พบกลุ่มสาธารณสุข ที่ อ.ไชโย มากผิดปกติถึง 4,000 % และสิ่งแวดล้อม มากถึง 6,100 %
อันดับ 4 จ.สตูล กลุ่มธุรกิจโรงงานใน อ.มะนัง มากผิดปกติ 3,400 %
อันดับ 5 จ.เพชรบุรี ยกเว้น อ.บ้านลาด เพียงอำเภอเดียว
อันดับ 6 จ.พระนครศรีอยุธยา มีกลุ่มชาวนามากเป็นพิเศษ และ ที่ อ.บางบาล มีศิลปินและนักกีฬาลงสมัครมากผิดปกติ เกือบ 4,000 %
จังหวัดที่มีการจัดตั้งขนาดใหญ่ที่สุด
จ.ศรีสะเกษ พบการจัดตั้งขนาดใหญ่ที่สุด แต่ไม่กระจายในทุกกลุ่ม แต่ไปหนัก ๆ ที่กลุ่มชาวนา เอสเอ็มอี ธุรกิจ สตรี แม่บ้าน เปราะบาง และกลุ่มงานอิสระ
รองลงมา คือ จ.พัทลุง ลพบุรี ระนอง เลย ยโสธร ปราจีนบุรี ราชบุรี เชียงใหม่ สงขลา บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช
สำหรับกรุงเทพมหานคร พบการจัดตั้งเช่นเดียวกัน ในกลุ่มเทคโนโลยีและธุรกิจสายพลังงาน รวมถึงสายสิ่งแวดล้อม
จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบ ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์รายนี้ ยังบอกว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูล ยังพบจังหวัดที่มีการตื่นตัวทางการเมือง อย่าง จ.ชลบุรี แต่มีการตื่นตัวเพียงใน อ.เมือง บางละมุง และศรีราชา
สำหรับจังหวัดที่มีการตื่นตัวน้อย ประกอบด้วย จ.สระแก้ว อุบลราชธานี กำแพงเพชร กาฬสินธุ์ นครพนม น่าน ตาก นครราชสีมา และอุดรธานี
ทั้งนี้ มีเพียง 19 จังหวัดเท่านั้น ที่เชื่อว่าไม่มีการจัดตั้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: