กรุงเทพฯ – เลขาธิการกกต. แถลง เลือก สว.ระดับอำเภอ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้มีปัญหาบ้าง สั่ง ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช เร่งหาตัวผู้ว่าจ้างคนลงสมัครให้ได้ พร้อมจับตาเลือกเป็นกลุ่มก้อน ที่เขตปทุมวัน อาจส่อฮั้ว
วันที่ 9 มิถุนายน 2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภาพรวมการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับอำเภอ ทั่วประเทศจำนวน 928 สถานที่ มีผู้สมัครรายงานตัวเข้าเลือก ประมาณ 46,000 คน เสร็จสิ้น เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ใช้บุคลากร 157,000 กว่าคน นอกจากนี้ ยังมีผู้สังเกตการณ์และสื่อมวลชน
โดยภาพรวมรู้สึกพึงพอใจ การเลือกเป็นไปได้ความเรียบร้อย มีปัญหาอยู่บ้าง เช่น ผู้สมัครมารายงานตัวไม่ทันกำหนดเวลา 09.00 น. จำนวนหนึ่งแต่ไม่มากนัก ที่จังหวัดนนทบุรี พบผู้สมัครนำหูฟัง ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เข้าไปยังสถานที่เลือก มีการร้องเอาโทษแล้ว
ที่ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้เจ็บป่วยกะทันหัน ระหว่างการลงคะแนนรอบที่ 2 แต่กฏหมายห้ามไม่ให้ออกไปนอกสถานที่เลือก ถ้าออกไปภายนอกจะเสียสิทธิ์ ซึ่งผู้สมัครเข้าใจ
ส่วนกรณีได้รับแจ้ง สถานที่เลือกในกรุงเทพฯ บางแห่ง ไม่จัดสถานที่สังเกตการณ์หรือติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น ตรวจสอบพบว่า บางสถานที่เลือกมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ จึงตั้งจุดสังเกตการณ์-กล้องวงจรปิดอยู่อีกห้อง แล้วถ่ายทอดสดจากสถานที่จริงมา ซึ่งข้อกฎหมายไม่ได้ห้ามว่าแต่ละที่จะต้องทำในลักษณะใด
เลขาธิการ กกต. แถลงอีกว่า เมื่อแต่ละหน่วยอำเภอเลือกเสร็จแล้ว ผู้อำนวยการระดับอำเภอ จะปิดประกาศผลการเลือกหน้าสถานที่เลือก โดยผู้ที่ได้รับเลือกสูงสุด 3 ลำดับ จะได้เลือกในระดับจังหวัดต่อไป วันพรุ่งนี้ (10 มิ.ย.) ผู้อำนวยการเลือก สว.ระดับอำเภอ จะส่งบัญชีรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกไปยัง ผู้อำนวยการเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด และปิดประกาศ พร้อมเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และแอปพลิเคชัน Smart Vote ให้ทราบต่อไป และภายใน 3 วัน ผู้อำนวยการระดับจังหวัด จะดำเนินการจัดทำเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครส่งให้แต่ละกลุ่ม เพื่อให้พิจารณาเลือกระดับจังหวัดต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการเลือก สว.ระดับจังหวัด จะเหมือนกันกับการเลือกระดับอำเภอ แต่จะไม่ยุ่งยากเท่าระดับอำเภอ เพราะระดับอำเภอมีผู้สมัครไม่ครบบ้าง มีเพียง 1-2 กลุ่ม หรือกลุ่มละคนเดียว แต่พอมาเลือกในระดับจังหวัด จะมีผู้สมัครครบทั้ง 20 กลุ่ม จะเลือกได้ง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น
สำหรับเรื่องร้องคัดค้าน มีใน 3 ลักษณะ ประกอบด้วย
1.การร้องคัดค้านเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ต้องไปร้องต่อศาลฎีกา ภายใน 3 วันนับแต่บัดนี้ ซึ่งศาลจะต้องพิจารณาภายในวันก่อนวันเลือกตั้ง
2.หากผู้สมัครเห็นว่า การเลือกไม่เป็นไปตามกฎหมาย ให้ฟ้องศาลฎีกา ซึ่งศาลจะต้องพิจารณาภายในวันก่อนวันเลือกตั้งเช่นกัน
3.การทุจริต ให้ร้อง กกต. จะพิจารณาโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวสอบถาม ถึงกรณีได้รับการร้องเรียน ปัญหาการเลือกที่เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ที่ผู้สมัครไม่เลือกตนเอง แต่ไปลงคะแนนให้บุคคลอื่นในหมายเลขเดียวกันเป็นกลุ่มก้อน จะเข้าลักษณะการฮั้วเลือกหรือไม่
เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มีสิทธิ์ถูกคนอื่นเลือก เลือกคนอื่นได้ หรือเลือกตัวเองก็ได้เช่นกัน ถ้าเห็นว่าคนอื่นดีกว่าในกลุ่มนั้น ๆ จึงถือว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่สามารถนำไปตั้งเป็นข้อสังเกต ดูที่พฤติการณ์และข้อเท็จจริง ยืนยัน กกต.มีกระบวนการตรวจสอบทางลับ ถ้าเห็นว่ามีมูล ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป ว่าเข้าข่ายความผิดตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ต้องรอดูต่อไป
ส่วนที่ผู้สมัคร สว.จังหวัดนครศรีธรรมราช ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างลงสมัคร กกต.ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว นายแสวง ระบุว่า ยังเป็นเพียงการกล่าวหา ใครจะพูดอะไรก็ได้ คณะกรรมการสืบสวนระดับจังหวัด จะต้องหาให้ได้ว่าใครเป็นคนว่าจ้าง
ขณะนี้ มีคำร้องทั้งหมด 22 คำร้อง รวมกับที่ปรากฏในสื่อด้วย การทำงานของ กกต.เป็นลักษณะสืบสวนสอบสวน ต้องมีความรอบคอบ
เมื่อถามถึงเรื่องเงินรางวัลนำจับทุจริต 1 ล้านบาท เลขาธฺิการ กกต.ยอมรับว่า ยังไม่มีผู้แจ้งเข้ามา จึงยังไม่มีใครได้รับเงินรางวัล แต่อาจจะไม่ได้ทั้งหมด 1 ล้านบาท จะได้รับก็ต่อเมื่อศาลตัดสินว่าผิด ขณะนี้มีเพียงคำร้องเท่านั้น หากคำร้องเหล่านั้นถูกพิจารณาว่าผิดจริง ถึงจะได้รับเงินต่อไป เรื่องนี้ระบุอยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว ทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่น และ สส. ซึ่งใครจะร้องก็ได้ รวมถึงตัวผู้สมัคร สว.เอง
นายแสวง กล่าวด้วยว่า กลุ่มที่ตื่นตัวในการเลือก สว.มากที่สุด น่าจะเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวที่ต้องการให้การเมืองเราดีขึ้น เช่น กลุ่ม iLaw ที่ทำงานร่วมกับ กกต.มานานพอสมควร รวมถึงองค์กรเอกชนต่าง ๆ ยอมรับ ความตื่นตัวของประชาชนมีน้อย อาจจะเป็นเพราะการออกแบบตามกฎหมาย ที่ให้ประชาชนสามารถสังเกตการณ์ได้เท่านั้น พร้อมย้ำว่า ทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรมกฎหมายระบุให้ได้ สว.จำนวน 200 คนโดยไม่มีเหตุใดให้เกิดการชะงัก
