กรุงเทพฯ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตรวจเยี่ยมการซ่อมแซม-ตกแต่งเรือพระราชพิธี เผย เตรียมแผนรองรับการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ฯ เรือพระราชพิธี จากการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค คาด จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่ม ไม่น้อยกว่า 50 % พร้อมจะขยายเวลาเข้าชม เป็น 20.00 น.
วันที่ 21 มิถุนายน 2567 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และแผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ กองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตรวจเยี่ยมการซ่อมแซมและตกแต่งเรือพระราชพิธี และเยี่ยมชมการฝึกซ้อมฝีพาย ในภารกิจเตรียมความพร้อม สำหรับการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2567 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม, นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร, พลเรือตรี ฉัตรชัย ศุกระศร เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารเรือ ผู้แทนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ กองทัพเรือ พลเรือตรีสมบัติ จูถนอม เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ กองทัพเรือ ให้การต้อนรับ
นางสาวสุดาวรรณ ระบุว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญ ได้แก่ การอนุรักษ์ ซ่อมแซม เรือพระราชพิธี และอาภรณ์ภัณฑ์เครื่องประกอบ จำนวน 52 ลำ กรมศิลปากร มอบหมายให้ กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และสำนักช่างสิบหมู่ ดำเนินการอนุรักษ์เรือพระราชพิธี ซึ่งมีสถานะเป็นโบราณวัตถุ และการประดับตกแต่งเรือพระราชพิธี ด้วยการลงรัก ปิดทอง ประดับกระจกตามแบบศิลปะไทยโบราณ รวมทั้งการซ่อมแซม และจัดสร้างอาภรณ์ภัณฑ์เครื่องประกอบเรือพระราชพิธี
ได้รับจัดสรรงบกลางจากรัฐบาล เพื่ออนุรักษ์และตกแต่งเรือพระราชพิธี จำนวน 52 ลำ เป็นเงินทั้งสิ้น 47 ล้าน 301,800 บาท ซึ่งกรมศิลปากรยึดหลักการในการอนุรักษ์เรือพระราชพิธี ให้มีความปลอดภัย พร้อมใช้งาน คงความเป็นของแท้ดั้งเดิม งดงามตามแบบฝีมือช่างไทยโบราณ สมพระเกียรติ และยังเป็นการสืบสานประเพณี การจัดขบวนเรือพระราชพิธี ซึ่งปัจจุบันมีเพียงประเทศไทยประเทศเดียวในโลก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา และกล่าวว่า พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นพระราชพิธีสำคัญ ที่ชาวไทยและชาวต่างชาติต่างรอคอยที่จะเฝ้าชม ถือเป็นความภาคภูมิใจของพสกนิกรชาวไทย และความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของชาติ ที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น จนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก จึงควรเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับผู้ที่จะเข้าชมความงามของเรือพระราชพิธี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ภายหลังพระราชพิธีฯ ด้วย
ซึ่งเรือพระราชพิธีที่จัดแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี จำนวน 8 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์
และเรือรูปสัตว์ 4 ลำ ได้แก่ เรือเอกไชยเหิรหาว เรืออสุรวายุภักษ์ เรือครุฑเหิรเห็จ และเรือกระบี่ปราบเมืองมาร
นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรือพระราชพิธีแห่งเดียวของโลก จึงมอบให้กรมศิลปากร จัดทำแผนการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการเรื่องเรือพระราชพิธี และการจัดกระบวนเรือ ในเว็บไซต์พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง (Virtual Museum) ของกรมศิลปากร และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
รวมทั้งการนำความสำเร็จของการจัดกิจกรรม ชมพิพิธภัณฑ์ยามราตรี (Night Museum) มาประยุกต์ใช้ กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี โดยจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงการจัดแสดงเรือพระราชพิธี ทั้ง 8 ลำ ในเดือนตุลาคม 2567 ด้วยการติดตั้งไฟจัดแสดงเพิ่มเติม เพื่อเน้นความงามของเรือพระราชพิธี ให้สอดรับกับบรร คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ ภายในเดือนธันวาคม 2567 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้นักท่องเที่ยว และเป็นการสนับสนุนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวด้วยว่า จากการวิเคราะห์สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และเดินทางเข้าชมทางเรือ คาดว่าการปรับปรุงและพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธีครั้งนี้ จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 พร้อมจะขยายเวลาเข้าชมจาก 16.00 น. เป็น 20.00 น.
