กรุงเทพฯ – ทนายอนันต์ชัย พร้อมแก๊งอเวนเจอร์ส หอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด น้องไนซ์ ทีมแอดมิน 60 คน และทนายธรรมราช อีก 6 ข้อหา ระบุ พร้อมยอมถอนแจ้งความ หากแม่เด็กยอมสารภาพผิดต่อสังคม
วันที่ 25 มิถุนายน 2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย นางชลิดา หรือต้นอ้อ พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง, นายแทนคุณ หรืออี้ จิตต์อิสระ และพวก เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พสิษฐ์ เงินยวง รองสารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กลุ่มลัทธิเชื่อมจิต เพิ่มเติม
แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
1.น้องไนซ์ เชื่อมจิต
2.กลุ่มแอดมิน จำนวน 60 คน
3.นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของกลุ่มเชื่อมจิต
นายอนันต์ชัย ระบุว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครแจ้งเอาผิดเด็กรายนี้ แต่เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) เด็กคนดังกล่าวกลับไลฟ์ขู่ว่า จะเอาพวกตนเองติดคุก จึงตัดสินใจนำหลักฐานต่าง ๆ มาแจ้งความบุคคลที่เกี่ยวข้องในวันนี้ ทั้ง 3 กลุ่ม ใน 6 ข้อหา รวม 19 กรรม ดังนี้
1.พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1), (2), (5)
2.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343, 83, 84, 86, 90, 91
3.พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
4.พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 มาตรา 5 และ 8
5.พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 มาตรา 13
6.ประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (8), 37 ทวิ
นายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ถึงแม้ตามกฎหมายระบุว่า ‘เด็กกระทำผิดไม่ต้องรับโทษ’ แต่ถ้าพบว่าพ่อ-แม่ของเด็กกระทำผิด ก็ต้องจับแยกออกจากกัน และเด็กต้องอยู่ในความคุ้มครองของ เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ด้านนายแทนคุณ หรือ อี้ ให้ข้อมูลว่า ทนายธรรมราช ออกมาเรี่ยไรเงินจากประชาชน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อนำมาสู้คดีกับพวกตนเอง ถือว่าขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี วันนี้ จึงนำหลักฐานส่วนนี้มาแจ้งความต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และไม่สามารถอ้างได้ว่าถูกปลอมเฟซบุ๊ก เนื่องจากยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และในช่องแสดงความเห็น (คอมเมนต์ใต้โพสต์) เรี่ยไรเงินดังกล่าว ยังมีการระบุสลิปโอนเงินจากผู้บริจาค เป็นเงิน 99 สตางค์บ้าง 2 บาทบ้าง สูงสุด 500 บาท แม้บางยอดไม่ได้เยอะ แต่ก็ผิด พ.ร.บ.เรี่ยไร
นอกจากนี้ ยังนำหลักฐาน ที่ทนายธรรมราช ไม่เคยเสียภาษีเลย มาให้ ปอศ.ตรวจสอบ ด้วย
ส่วนนางชลิดา หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า เคยร้องเรียนสภาทนายความฯ ให้สอบมรรยาททนายความของ ทนายธรรมราช ว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2566 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ส่วนที่แม่เด็กของเด็กวัย 8 ขวบ เคยพูดว่า “รักน้องทำไมทำกับน้องแบบนี้” อยากบอกว่า “เราสงสาร สงสารที่พ่อแม่ที่บอกว่า รักน้องทำกับน้องแบบนี้ ควรจะรักลูกให้ถูกทาง ตอนนี้พวกคุณกำลังทำร้ายเด็กคนนึงอยู่ และน้องมีอาการหนักขึ้นทุกวัน เราแค่อยากช่วยเด็กคนนึง ไม่มีวัตถุประสงค์ทำร้ายเด็กเลย เราไม่ได้รัก เราแค่สงสาร เท่านั้นเอง”
นายแทนคุณ กล่าวว่า เป็นห่วงพัฒนาการของเด็ก 8 ขวบ ควรจะต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพราะจากการไลฟ์สดสอนธรรม น้องนิ่งได้ไม่เกิน 3 นาที จากภาษากายค่อนข้างเครียด เหมือนจะต้องทำตามคำสั่งให้เสร็จตลอด จึงมั่นใจว่ามีปัญหาทางพัฒนาการแน่นอน และเด็กถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด สร้างสตอรี่ที่เป็นเท็จ ในอนาคตเด็กจะอยู่ยากมาก ๆ เป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่โดนทักจากคนภายนอก ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงพอ ทั้งหมดเกิดจากการกระทำของผู้ที่เป็นพ่อ-แม่
นายอนันตชัย เสริมว่า จากใจคนเป็นพ่อที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ ควรนำเด็กไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางยุวประสาทให้ช่วยรักษาเด็ก และตัวแม่เองถ้ายอมมาสารภาพต่อสังคม ก็จะยอมถอนแจ้งความให้ ในส่วนของตนเอง เพื่อตัวของเด็กเอง แต่ต้องสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เพราะสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง
