กรุงเทพฯ – กระทรวงการคลัง ยอมถอย หันใช้งบฯ ปี 2567-2568 แทนเงิน ธ.ก.ส. แจกดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ลดวงเงินเหลือ 4.5 แสนล้านบาท แต่คงกลุ่มเป้าหมายเท่าเดิม 50 ล้านคน เพิ่มเงื่อนไขซื้อ ‘มือถือ-เครื่องใช้ไฟฟ้า’ ไม่ได้ 
วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุม คณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 7/2567 เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะนำเสนอ คณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ต ชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ และการแถลงรายละเอียดของนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 24 กรกฎาคม
สรุปสาระสำคัญการประชุมครั้งนี้ กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ จัดทำข้อเสนอเรื่องแหล่งเงินในโครงการใหม่ เพื่อไม่ให้เป็นการตั้งงบประมาณที่มากเกินความจำเป็น จึงเสนอให้เตรียมวงเงินไว้ 90% ของวงเงิน 5 แสนล้านบาท หรือ 4.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น
1.งบประมาณปี 2567 จำนวน 1.65 แสนล้านบาท
2.งบประมาณปี 2568 จำนวน 2.85 แสนล้านบาท
ส่วนกลุ่มเป้าหมายตามโครงการ ยังคงเท่าเดิม คือ 50 ล้านคน แต่ที่ตัดวงเงินไว้เพียง 4.5 แสนล้านบาท เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการใช้งบฯ ในโครงการพัฒนาด้านอื่น ๆ และโครงการรัฐที่ผ่านมา จะมีประชาชนเข้ามา 80-90% เท่านั้น ยืนยันรัฐบาลจะเตรียมวงเงินตามจำนวนผู้ลงทะเบียนจริง ได้ครบ 10,000 บาททุกคนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอเรื่องแหล่งเงิน 4.5 แสนล้านบาทดังกล่าว ยังไม่ใช่ข้อสรุป จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้ง
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับแหล่งเงินจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ยังไม่ตัดทิ้ง ยังคงเป็นทางเลือกอยู่ กรณีหากมีคนลงทะเบียนถึง 50 ล้านคน
ที่ประชุมยังเห็นชอบปรับปรุงเงื่อนไข รายการสินค้าต้องห้าม ที่ไม่สามารถจะใช้เงินในโครงการ โดยเพิ่มสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือ เข้าไปด้วย ซึ่งประชาชนจะเริ่มใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาทได้ ปลายปีนี้แน่นอน
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถทยอยดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’ เพื่อลดความแออัดของระบบ ยืนยันตัวตน และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เมื่อรัฐบาลเปิดระบบลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ จะสามารถยืนยันเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะปิดลงทะเบียน ในเดือน ก.ย.2567
