กรุงเทพฯ – เผยคลิป การเจรจาระหว่าง ตำรวจ ครอบครัว กับ ‘เสี่ยตุ้ง’ ชายคลั่ง พบ ไร้ปัญหากับตำรวจ แต่พล่ามเรื่องในครอบครัว ตอบโต้กันด้วยถ้อยคำรุนแรง จนตำรวจต้องเตือน “อย่ากระตุ้นอารมณ์”
วันที่ 21 กรกฎาคม 2567 ภายหลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมง ในการเจรจาเกลี้ยกล่อม นายบุญมา หรือ เสี่ยตุ้ง อายุ 49 ปี เจ้าของโรงพิมพ์ ที่ทะเลาะกับคนในครอบครัวภายในบ้าน ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม เข้าระงับเหตุ ทำให้ถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย และยังมีลูกสาวของผู้ก่อเหตุบาดเจ็บอีกคน ก่อนพบร่างเสี่ยตุ้ง ถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่ที่ชั้นลอย
นอกจากการเผยแพร่คลิปและภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะเสี่ยตุ้งรัวยิงจน พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม แล้ว ยังมีการเปิดเผยคลิปความยาวประมาณ 3.36 นาที เป็นการเจรจากับ เสี่ยตุ้ง ผ่านช่องหน้าต่างเหล็กดัด จากชั้นบน ของตำรวจและคนในครอบครัว
เผยให้เห็นเสี่ยตุ้ง ที่ไม่ได้สวมเสื้อ ท่าทางไม่ได้เคร่งเครียดมากนัก แต่พูดคุยระบายถึงปัญหาครอบครัว และพูดจาตอบโต้กับคนในครอบครัว ที่ใช้ถ้อยคำค่อนข้างรุนแรงและการทุบ-เขย่าประตูเหล็ก กระทั่งตำรวจที่ทำหน้าที่เจรจาเกลี้ยกล่อม ต้องเตือนว่า “อย่าไปกระตุ้นอารมณ์ จะต้องทำให้เขาดร็อปลง”
ในคลิป ยังได้ยินเสี่ยตุ้ง พูดว่า “จะไปนอนแล้ว” จากการตั้งข้อสังเกต ถ้าเสี่ยตุ้งคิดจะก่อเหตุรุนแรง หรือ สังหารตำรวจไปแล้ว ไม่น่าคิดจะไปนอนได้
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนด้านคดี ตำรวจสอบปากคำฝ่ายผู้ก่อเหตุไปแล้ว 6 ปาก ประกอบด้วย ภรรยาผู้ก่อเหตุ และลูก ๆ ของผู้ก่อเหตุอีก 5 คน ทั้งหมดอยู่ในอาการเครียด ส่วนที่ตำรวจให้น้ำหนักว่า ผู้ก่อเหตุจบชีวิตตัวเองนั้น เนื่องจากเมื่อเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเลือดแห้งแล้ว แต่ความชัดเจนต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานจาก แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชพยาบาล ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ลูกสาวทั้ง 5 คนของผู้ก่อเหตุ ยังไม่พร้อมจะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ขอเวลาจัดการเรื่องพ่อให้เสร็จก่อน แต่ได้ชี้แจง ถึงการนำเสนอข่าวว่า ‘ลูกคนเล็ก’ ของผู้ก่อเหต วิ่งสวนออกมา ทำให้ รอง ผกก.สน.ท่าข้าม เสียหลักพลาดโดนยิงนั้น ข้อเท็จจริง คือ ผู้ก่อเหตุยิง รอง ผกก.แล้ว ลูกสาวคนรองที่อยู่ตรงประตูก็ยังหลบ เข้าไปดึงน้อง และวิ่งออกมาพร้อมกัน ไม่ใช่การวิ่งสวนออกมาหรือไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีหลักฐานคลิปที่เผยแพร่กัน
อ่านข่าวย้อนหลัง ได้ที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: