กรุงเทพฯ – หัวหน้าพรรคประชาชน ยืนยัน ไม่ลดเพดานแก้ไข มาตรา 112 แต่จะรอบคอบขึ้น ยึดตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เซาะกร่อนบ่อนทำลาย ไม่กังวล คดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล แจง ตั้งกรรมการบริหารพรรค เพียง 5 คน ตามกฎหมายกำหนด ไม่ได้เลี่ยงอันตรายทางการเมือง
วันที่ 9 สิงหาคม 2567 ในการแถลงเปิดตัวพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค ชี้แจงถึงนโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่สร้างปัญหา ส่งผลให้เกิดการยุบพรรคมาตลอด หลังจากนี้จะลดเพดานลงหรือไม่ ว่า จะไม่ประมาท จะทำทุกอย่างรอบคอบ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
“เราไม่เคยสื่อสารว่าลดเพดานอะไร เรายืนยันว่า เราเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 เพื่อไม่ให้มีการกลั่นแกล้งพรรคฝั่งตรงข้าม และคำวินิจฉัยศาลไม่ได้สั่งห้ามแก้ไข แน่นอนว่าเราไม่ประมาท เราทำทุกอย่างรอบคอบ คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา จนยุบพรรคก้าวไกล เราต้องศึกษาอย่างดี แต่คิดว่าพวกเราต้องผลักดันเดินหน้าการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนนี้ ที่ปัจจุบันยังมีปัญหาอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่เราจะเซ็นเซอร์ปิดปากตัวเอง เราเสนอบนหลักการ เราไม่ได้มุ่งเป้าเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันใด ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน เราต้องยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรายืนยันเดินหน้าทุกอย่างต่อ”
นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า จะไม่ประมาท ต้องกลับมาทบทวนเรียนรู้คำตัดสินของศาล และข้อกฎหมายต่าง ๆ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไป คือ หลักการและความเชื่อ ต้องการทำให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
สำหรับคดีความของ 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า คำร้องของ ป.ป.ช.ต่างจากการยุบพรรค เพราะเป็นศาลยุติธรรม ต้องพิจารณาเป็นรายกรณี การกระทำของ ส.ส.แต่ละคน องค์ประกอบอาจต่างกันบ้าง บางคนอาจเรียกร้องแทนผู้ชุมนุม บางคนใช้สิทธิประกันตัว แต่ทุกคนได้ลงนามเสนอแก้ไข มาตรา 112 ซึ่งแต่ละคนมีสิทธิชี้แจง โดยส่วนตัวไม่กังวล
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาชนที่เพิ่งตั้งมานี้ จะมีอายุสั้นหรือยืนยาว หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า สั้นหรือยืนไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่กลุ่มขั้วอำนาจเก่า ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการทุบทำลายเรา เอาสิ่งเหล่านั้นมากดทับไม่ให้เราเดินหน้าต่อไม่ได้ ยืนยันจะเดินหน้าต่อไป แต่ไม่ประมาท ทำงานด้วยความสุขุมรอบคอบ อายุยืนหรือไม่ อยู่ที่พวกเขาและประชาชน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา พรรคไม่ได้พุ่งเป้าที่จะเสนอแก้ไขมาตรา 112 อย่างเดียว แต่เสนอแก้ไขเรื่องนโยบายอื่น ๆ ด้วย ขอสื่อสารไปยังประชาชนที่อาจยังไม่ได้โหวตเลือกเราในอดีต พรรคประชาชนในปัจจุบัน ไม่ได้พุ่งเป้าใด ๆ ต่อสถาบันทางการเมืองใด ๆ แต่ตั้งใจเสนอนโยบาย ที่ยังมีปัญหาในโครงสร้างสังคมไทย ด้วยการทำงานหนักและจริงใจ เชื่่อว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น
ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสริมว่า ในฐานะมีส่วนร่วมจัดทำนโยบายพรรคก้าวไกล เรื่องมาตรา 112 เป็น 1 ใน 300 นโยบาย ที่เสนอไป ถ้าไปดูสิ่งที่พรรคก้าวไกลทำ ได้พยายามแก้ไขทุกสิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศ เสนอร่างกฎหมายไป 60 กว่าฉบับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระจายอำนาจ ยกระดับขนส่ง แก้ที่ดินทำกิน คุ้มครองสิทธิแรงงาน นี่คือสัญญาของพรรคที่พร้อมแก้ทุกปัญหาของประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลดเพดานลง จะรักษาอุดมการณ์เหมือนเดิมได้หรือไม่ นายพริษฐ์ ระบุว่า อะไรที่เคยมองว่าเป็นปัญหา เรายังมองว่าเป็นปัญหาอยู่ แต่เข้าใจว่า พื้นที่ที่หาทางออกนั้นแคบลงด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลไม่ได้ห้ามแก้ไขมาตรา 112 ยังมีพื้นที่เหลืออยู่ อาจเป็นเรื่องการพิจารณาอัตราโทษ สิทธิร้องทุกข์กล่าวโทษ เป็นต้น พื้นที่ที่น่าจะเหมาะสมที่สุดในการพูดคุยหาทางออก คือ สภาฯ ภายใต้กรอบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ คำวินิจฉัยที่ 3/2567 และ 10/2567
ตั้ง กก.บห.แค่ 5 คน ไม่ได้เลี่ยงอันตรายทางการเมือง
หัวหน้าพรรคประชาชน ยังยืนยันถึงการตั้งกรรมการบริหารพรรค เพียง 5 คน ว่า ไม่ได้หลบเลี่ยงอุบัติเหตุหรืออันตรายทางการเมืองในอนาคต แต่เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำตามกฎหมาย ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงไร้รอยต่อ จากพรรคที่ถูกยุบสู่พรรคประชาชน ต้องการหาสมาชิก 1 แสนคน และเงินบริจาค 10 ล้านบาท ภายใน 1 เดือน
ทั้งนี้ 4 ปีพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา มีสมาชิก 115,492 คน
วันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.67) พรรคประชาชน จะจัดกิจกรรมรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่เป็นครั้งแรก พร้อมพบปะกับ สส. สก.(สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร) และผู้บริหารพรรคชุดใหม่ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่สเตเดียมวัน สยาม
ขณะที่กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลเดิม อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายชัยธวัช ตุลาธน จะร่วมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ.ราชบุรี ซึ่งจะมีการเลือกตั้งใน วันอาทิตย์ที่ 1 ก.ย.นี้
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
