กรุงเทพฯ – พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เลือกเป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นชิงเก้าอี้ ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 248 เสียง
วันที่ 15 สิงหาคม 2567 เวลา 10.00 น. สภาผู้แทนราษฎร ประชุมวาระพิเศษ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ บุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม
นายสรวงค์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีผู้รับรอง 291 คน ถือว่าเป็นไปตามข้อบังคับการประชุม และไม่มีผู้เสนอชื่อชิงตำแหน่ง ทำให้มี น.ส.แพทองธาร เพียงผู้เดียวให้ที่ประชุมเลือก
จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงขั้นตอนการลงคะแนน เนื่องจากมีบุคคลได้รับการเสนอชื่อ เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ซึ่งจะต้องลงมติจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของ สส.ที่มีอยู่ 493 คน คือ ต้องมากกว่า 248 คน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมถกเถียงกันถึงการอภิปรายในที่ประชุม ว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากมี สส.ฝ่ายค้าน ร้องขออภิปราย
กระทั่งสุดท้าย ประธานสภาฯ ตัดสินให้ สส.อภิปรายได้ เป็นเวลา 20 นาที ตามที่มีการตกลงกันของ คณะกรรมการประสานงาน (วิป)
หลังการอภิปรายเสร็จสิ้น จึงเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยเปิดเผย ด้วยการเรียกชื่อ สส.ทีละคน และขานลงคะแนนเลือก ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี
ปัจจุบัน มี สส.ทำหน้าที่ 493 คน ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร คือ ตั้งแต่ 248 เสียงขึ้นไป
สส.จำนวน 493 คน แบ่งเป็น
ฝ่ายรัฐบาล 11 พรรคการเมือง รวม 314 เสียง
ฝ่ายค้าน 7 พรรคการเมือง รวม 179 เสียง 
