ดำดิ่งสู่อาณาจักรใต้พิภพอันน่าทึ่ง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัย
ที่จะพลิกมุมมองของคุณ ต่อโลกใต้เท้าตัวเองไปตลอดกาล!
วันนี้ เราจะพาคุณดำดิ่งสู่โลกใต้ดิน ไปพบกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่ซ่อนตัวมานับล้านปี แต่มีประโยชน์มากมายต่อโลกใบนี้ ช่วยพลิกฟื้นผืนดินให้อุดมสมบูรณ์ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วก้าวเข้าสู่โลกอันยิ่งใหญ่ใต้ดินไปพร้อมกัน
โลกในปัจจุบัน เราต่างให้ความสำคัญกับความยั่งยืนกันมากขึ้น ‘โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน’ จึงถูกนำมาใช้ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเป็นเศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ที่ผสมผสานการพัฒนา 3 ด้านหลัก คือ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศในด้านสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และให้ไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals–SDGs ขององค์การสหประชาชาติ (UN)
ซึ่ง กฟผ. แม่เมาะ เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ได้นำ ‘โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน’ หรือ BCG Economy Model มาใช้โดยการนำ ‘ลีโอนาร์ไดต์ (Leonardite)’ ที่ปะปนอยู่ในหน้าดินจากการเปิดเหมือง ซึ่งมีอินทรียวัตถุสำคัญ สามารถนำมาใช้ปรับปรุงดินที่เสื่อมสภาพให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูก และเมื่อนำมาวิจัยคัดแยกสิ่งเจือปนต่าง ๆ จนพัฒนาเป็น ผลิตภัณฑ์ฮิวมิคแบบน้ำ สามารถสร้างประโยชน์ให้กับภาคการเกษตรได้อย่างมหาศาล
ลีโอนาร์ไดต์ (Leonardite) คืออะไร
‘ลีโอนาร์ไดต์’ คือ ชั้นดินปนถ่านหิน ที่เกิดจากการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนตามธรรมชาติ หรือ ปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation Reaction) ซึ่งในขั้นตอนการขุดลิกไนต์จากใต้ผิวดินที่เรียงตัวสลับกันกับชั้นดิน จะมีชั้นดินปนถ่านหิน หรือ ลีโอนาไดต์อยู่ มีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ การระบายน้ำและถ่ายเทอากาศ เป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ดินที่เป็นประโยชน์ และเพิ่มความสามารถในการดูดซับธาตุอาหาร ช่วยในการเจริญเติบโตของพืช จึงเหมาะกับการใช้ประโยชน์ทางการเกษตร
ดำดิ่งสู่โลกใต้ดิน ที่ซ่อนอยู่นับล้านปี ค้นพบความมหัศจรรย์ของ ‘ฮิวมิค’
จากลีโอนาไดต์ไร้ค่า พัฒนาสู่ ‘ฮิวมิค’
การทำเหมือง กฟผ. แม่เมาะ จำเป็นต้องเปิดหน้าดินที่ปิดทับถ่านหินลิกไนต์ออก และนำไปทิ้งยังพื้นที่ที่กำหนดไว้ จากการศึกษาวิจัยพบว่า หน้าดินดังกล่าวมีชั้นลีโอนาร์ไดต์ (Leonardite) ซึ่งเป็นชั้นดินที่มีอินทรียวัตถุสำคัญแทรกอยู่ คือ สารประกอบฮิวมิค (กรดฮิวมิค กรดฟูลวิค และฮิวมิน) สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรกรรมได้หลากหลาย เช่น ใช้ปรับปรุงดินที่เสื่อมสภาพให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูก
กฟผ. แม่เมาะ ได้ศึกษาวิจัยกระบวนการคัดแยกสิ่งเจือปนออกจากลีโอนาร์ไดต์ เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ฮิวมิคแบบน้ำเป็นผลพลอยได้ (By-Product) ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ โดยเฉพาะอินทรียวัตถุที่มีปริมาณสูง มีธาตุอาหารจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชหลายชนิด นอกจากนี้ จากการวิจัยพบว่า ปริมาณธาตุโลหะหนักทุกชนิดมีค่าดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน สามารถใช้เป็นส่วนผสมของวัสดุปรับปรุงดิน การบำบัดน้ำเสีย หรือใช้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้ ‘ฮิวมิค’ แม่ทัพสำคัญ ผู้ฟื้นคืนชีวิตดิน
คุณสมบัติของ Humic จากลีโอนาร์ไดต์เหมืองแม่เมาะ ช่วยปรับ pH ในดินให้สมดุล มีค่าดูดซับไอออนบวกธาตุอาหารพืชสูง CEC อยู่ในช่วง 54 – 81 cmole/kg รวมถึงมีปริมาณ Organic Matter (OM) สูง มีปริมาณธาตุอาหารรอง อาหารเสริมที่เป็นประโยชน์ต่อพืชหลากหลาย สารฮิวมิค เป็น CHELATE เหมาะสมกับการใช้ในดินเหนียวและดินทราย ซึ่งเป็นดินส่วนใหญ่ของประเทศไทย ในสภาพที่เป็นดินเหนียว ธาตุอาหารจะถูกตรึงไว้ และยึดเกาะกันอย่างเหนียวแน่น รากพืชไม่สามารถดึงธาตุอาหารมาใช้ได้ ฮิวมิคจะเข้าไปจับกับธาตุอาหาร แล้วปลดปล่อยให้พืชได้ ส่วนในดินทรายจะเพิ่มการยึดจับธาตุอาหารในอนุภาคเม็ดดิน ประโยชน์มากมาย ที่ได้จากฮิวมิค
· ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน โดยเฉพาะดินเหนียว ให้ห่างขึ้น น้ำ อากาศจึงไหลเข้าช่วงว่างเม็ดดินได้ พืชจึงเจริญเติบโตดีขึ้น
· ช่วยปรับสมดุล pH ให้พอดี พืชจึงนำปุ๋ยไปใช้ได้ดีมากขึ้น
· ช่วยให้การดูดอาหารขึ้นต้นดีขึ้น
· ช่วยลด NH4+ ส่วนเกิน เพราะสามารถช่วยดูดซับแอมโมเนียส่วนเกินได้
· ช่วยให้ระบบรากเจริญงอกงามดีขึ้น
· ช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารต่าง ๆ จากแรงยืดเกาะของอนุภาคดินเหนียว
· ช่วยให้ดินทรายเก็บธาตุอาหาร แต่ช่วยให้ดินเหนียวปลดปล่อยธาตุอาหาร
· ช่วยสร้างสภาพคีเลตธรรมชาติให้ธาตุอาหารต่าง ๆ พืชจึงดูดไปใช้ได้ดีขึ้น
· ช่วยให้เกิดการสะสมธาตุอาหารในดินได้พอเหมาะ
· ช่วยแก้ปัญหาดินเค็มจากการให้ปุ๋ยหนักมือ เพราะช่วยดูดซับธาตุประจุ + ได้ดี
· ช่วยแก้ปัญหาดินเค็มจากน้ำเค็มหนุน เพราะเมื่อใช้ร่วมกับ ปุ๋ย Ca จะผลัก โมเลกุลของ Na ออกจากโมเลกุล ของเม็ดดินเหนียว
· ช่วยส่งเสริมระบบจุลินทรีย์ในดิน ให้ดีขึ้น
‘ฮิวมิค’ ของขวัญจากแผ่นดินเพื่อแผ่นดิน
ฮิวมิคไม่เพียงแค่ช่วยปรับปรุงดินให้พืชเจริญเติบโตเท่านั้น แต่ยังเป็นการคืนชีวิตให้กับแผ่นดิน ด้วยการนำทรัพยากรชีวภาพ มาช่วยพัฒนาต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับชุมชน (BIO Economy) ความสำเร็จของฮิวมิคไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มผลผลิต แต่ยังเป็นการเพิ่มความสุข เพิ่มความรักและความภาคภูมิใจในการทำเกษตรกรรม เพื่อสร้างความยั่งยืนต่อไปในอนาคตอีกด้วย จากกองดินสู่ชุมชน ต่อยอดสร้างรายได้
จากกองดินไร้ค่าถูกนำมาพัฒนาต่อยอด เป็น ‘ฮิวมิค’ ด้วยการตระหนักถึงคุณค่า ส่งต่อความยั่งยืนให้ชุมชน การคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำการเกษตร (Green Economy)
ดังตัวอย่างของ ‘เมลอน สวนลุงสิงห์’ ที่ได้ทดลองนำ ‘ฮิวมิค’ มาใช้แล้วได้ผลเป็นอย่างดี ผลผลิตเมลอนที่ได้มีขนาดลูกใหญ่กว่าไม่ใช้ฮิวมิค และที่น่าตกใจ คือ ความหวานที่เพิ่มขึ้น 2 บริกซ์ เมื่อเทียบกับต้นที่ไม่ใช้ฮิวมิค
ถ้าจะบอกว่าฮิวมิคช่วยพืชในด้านไหน ต้องบอกว่าฮิวมิคคืออาหารเสริมของพืชไม่ใช่นำมาใช้ทดแทนปุ๋ย ปุ๋ยที่ใช้ยังต้องใช้อยู่ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ฮิวมิคจะมาช่วยให้ปุ๋ยที่เราใส่ให้กับพืชมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะฮิวมิคจะช่วยให้รากพืชมีความแข็งแรง ดูดซึมสารอาหารได้ดี รากฝอยมีปริมาณมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ปกติเราใส่ปุ๋ยไป พืชอาจจะนำไปใช้ได้เพียง 50-60 % แต่ถ้าใส่ฮิวมิคไปด้วยพืชอาจจะนำไปใช้ได้ถึง 80-90% เลย ที่สำคัญฮิวมิคไม่ได้มีอันตรายหรือผลกระทบต่อพืชหรือผู้ใช้งาน เพราะสกัดมาจากซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมกันมาเป็นล้านปี ซึ่งก็คือ ลีโอนาไดต์ ที่อยู่ในดินอยู่แล้วนั่นเอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: