กรุงเทพฯ – พรรคเพื่อไทย ส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการแล้ว พรรคประชาธิปัตย์เรียกประชุมร่วม กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. พรุ่งนี้ ห้าโมงเย็น
วันที่ 28 สิงหาคม 2567 น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ และผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยหลังจากพรรคได้รับเทียบเชิญเข้าร่วมรัฐบาล จากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ว่า จะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการตามข้อบังคับ คือ
วันนี้ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเทียบเชิญให้ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ที่สภาผู้แทนราษฎร ตอนนี้พรรคได้ลงเลขรับหนังสือเรียบร้อย และตนเองได้หารือกับหัวหน้าพรรคแล้ว
คาดว่า จะนัดประชุมกรรมการบริหารพรรค ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) เวลา 17.00 น. จากนั้น จะประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค กับ สส. ในเวลา 17.30 น.
วาระการประชุม จะเป็นการพิจารณาการร่วมรัฐบาล และการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการประชุมนานพอสมควร เพราะจะมีประเด็นที่ต้องพิจารณากัน และคงจะเปิดรับฟังความเห็นกันอย่างกว้างขวาง
“ผมยังไม่ทราบรายละเอียด ในเรื่องจำนวนผู้ที่จะถูกเสนอชื่อ แต่พรุ่งนี้ คงมีการหารือกันในประเด็นนี้ และขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะมีใครหยิบยกประเด็นใดเพิ่มเติมอย่างไร ผมคิดว่าคงจะมีการพูดกันอย่างกว้างขวางในทุก ๆ มิติ ในการเข้าร่วมรัฐบาล ผมเองก็ยังไม่ทราบว่า ร่วมไม่ร่วม เพราะผมก็ยังไม่ทราบว่ามติจะเป็นอย่างไร ต้องรอมตินั้นก่อน ซึ่งต้องเคารพผู้ที่เป็นองค์ประชุมในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมี 53 ท่าน คือ กรรมการบริหาร 38 ท่าน และ สส. 25 ท่าน มีส่วนนึงซ้ำซ้อนกัน คือ สส.ที่เป็นกรรมการบริหารด้วย 10 ท่าน” ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
เลขาฯ พท. นำส่งเทียบเชิญ เลขาฯ ปชป.
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นำหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล มอบให้ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ต่อหน้าสื่อมวลชน ท่ามกลางพยานจาก สส.ทั้ง 2 ฝ่าย ที่สภาผู้แทนราษฎร
นายสรวงศ์ เปิดเผยว่า มีการเทียบเชิญกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว หลังจากที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีมติออกมา และเรียนว่าจะยื่นหนังสือเชิญพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารประเทศ มาเป็นรัฐบาลร่วมกัน
สำหรับกระแสข่าวว่า ปชป.จะได้เก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการ 1 และช่วยว่าการอีก 1 นั้น นายสรวงศ์ ระบุว่า ไม่ทราบจริง ๆ เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ขออนุญาตไม่ก้าวล่วง
เมื่อถามว่า อุดมการณ์ของ ปชป.กับ พท.พอมาทำงานร่วมกันแล้วจะไปด้วยกันได้หรือไม่ เลขาธิการ พท.ระบุว่า เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน แต่ปัจจุบัน มั่นใจว่า สส.ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่ง สส.พรรค พท.ทุกคน ก็ไม่มีใครคัดค้าน เมื่อวาน ก็พูดคุยกัน โดยนำคำสัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์ เป็นที่ตั้ง ว่าทุกอย่างผ่านมาแล้ว ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ และเราเป็นพรรคการเมืองที่ร่วมต่อสู้กันมานานพอสมควร พอมาถึงคนรุ่นใหม่ดูแลพรรค อุดมการณ์ทางการเมืองก็ส่วนอุดมการณ์ แต่แนวทางการทำงานระหว่างเราไปด้วยกันได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามย้้ำ กรณีถูกมองว่าหักหลังประชาชน เพราะที่ผ่านมา มีการล้มตายจากการต่อสู้กันมาก นายสรวงศ์ ชี้แจงว่า ในอดีต อุดมการณ์ทางการเมืองอาจไม่เคยเหมือนกันเลย แต่ ณ วันนี้ คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารพรรคทั้งสองฝ่าย ทุกคนมุ่งหน้าไปในทางเดียวกัน คือ ปัญหาของพี่น้องประชาชนต้องได้รับการแก้ไข สิ่งที่เราเห็นตรงกัน คือ ประเทศชาติถอยหลังไปหลายปี มันถึงเวลาแล้วที่ต้องเดินหน้าร่วมกัน อะไรที่เป็นความไม่เข้าใจกัน ทิ้งไว้ข้างหลังจะดีกว่า กับคนเสื้อแดงก็ได้พูดคุยกัน เมื่อความคิดเห็นตรงกัน และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทุกคนก็เข้าใจได้
ปัด ปิดสวิตช์ 3 ป. ยังไม่คุยไทยสร้างไทย
เลขาธิการ พท.ให้เหตุผลที่ตัดสินใจ นำ ปชป.มาร่วมรัฐบาลว่า การบริหารประเทศก็เป็นการบริหาร แต่เสียงในสภาฯ ต้องมั่นคง นอกจาก ปชป.แล้ว ยังมีพรรคอื่น ที่ยกหูไปเทียบเชิญเข้ามาร่วมด้วยเหมือนกัน พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ใช่แผนปิดสวิตช์ 3 ป. ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ ทำงานร่วมกันมา 1 ปี ได้เห็นการอภิปราย และดูการทำงานของ ปชป.ภายใต้ผู้บริหารยุคนี้ มองว่าสามารถทำงานร่วมกันได้ ส่วนจะทำให้โหวตเตอร์ไม่พอใจหรือไม่ เชื่อว่า ถ้าตั้งใจร่วมมือกันและผลงานออกมาดี อีกทั้งถ้าความขัดแย้งหายไป ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากกว่า
ส่วนจะมีการเทียบเชิญกลุ่มของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ ก็มีการคุยกัน พรรคให้เกียรติทุกพรรคการเมือง หากมีโอกาสเทียบเชิญพรรคอื่นหรือบุคคลอื่นก็จะทำ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคไทยสร้างไทย ที่เคยโหวตให้ นางสาวแพทองธาร
ไม่กังวล ‘เรืองไกร’ ร้อง นายกฯ ถือหุ้นเอกชน
นายสรวงศ์ กล่าวกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบนางสาวแพทองธาร ปมถือหุ้นในบริษัทเอกชน และการลาออกจากกรรมการบริษัทต่าง ๆ เข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า เป็นสิทธิของนายเรืองไกร เรามีฝ่ายกฎหมายดูอยู่ และมองว่าไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นประเด็น
ให้อภัยพรรคเพื่อไทย มั่นใจ ‘ชวน’ ทำตามมติพรรค
นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวขอขอบคุณ พท. ที่ไว้วางใจ ปชป. ให้เข้าร่วมรัฐบาลบริหารประเทศ พรรคต้องนำเทียบเชิญเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส.ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.)
นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า วันนี้ ปชป.ไม่มีความขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น มีแต่ความรัก ความเข้าใจ และการให้อภัยพรรคเพื่อไทย สำหรับการพูดคุยกับโหวตเตอร์ของพรรคนั้น ต้องเข้าใจว่า เหตุการณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้วกับวันนี้ สถานการณ์ทางการเมืองไม่เหมือนกัน ปัญหาของประเทศก็ไม่เหมือนกัน แนวคิดในการพัฒนาประเทศก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่ทั้ง 2 พรรคเข้ากันได้ และเดินหน้าไปด้วยกัน ถือเป็นสิ่งที่ดีงาม
ส่วนนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน แกนนำของพรรค ที่ออกมาคัดค้านนั้น เลขาธิการ ปชป.ระบุว่า ภายในพรรคมีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีฝ่ายที่ร่วมรัฐบาลและไม่ร่วม แต่เมื่อผ่านมติของพรรค ทุกคนต้องยึดถือตามมติพรรคและปฏิบัติตาม
พร้อมยืนยันว่า ปชป.ไม่ใช่พรรคสำรองในการเข้าร่วมรัฐบาล เพราะในการลงมติให้ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีสมาชิก ปชป.16 คน โหวตเห็นชอบ ในเวลานั้น พรรคก็ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และขอย้ำว่า ปชป.ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับการผลักพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วม
นายเดชอิศม์ ยังกล่าวถึงโควตารัฐมนตรีของพรรคว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี จะให้ ปชป.นั่งกระทรวงไหน ไม่อยากก้าวล่วงอำนาจนายกรัฐมนตรี และไม่กังวลการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี สำหรับตนเองก็ยังไม่ทราบเลยว่า ถูกร้องเรื่องอะไร
เปิดหนังสือเชิญ ปชป.ร่วมรัฐบาล
หนังสือพรรคเพื่อไทย ที่เชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ลงนามโดย นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคพรรคเพื่อไทย ส่งถึง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีรายละเอียดระบุว่า
ตามที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีได้เชิญพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยได้แถลงผ่านสื่อมวลชนเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วนั้น
พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์มีบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีอุดมการณ์ที่จะทำงานร่วมกันได้ จึงขอเรียนเชิญพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าร่วมรัฐบาล เพื่อร่วมกันบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ และความผาสุก ของประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ท่านดำเนินการตามขั้นตอนภายในของพรรค และโปรดส่งรายชื่อบุคคลที่ท่านเห็นว่า เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ส่งมายังพรรคเพื่อไทย ผ่านทางเลขาธิการพรรคโดยด่วนต่อไป
