กทม. – สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วันที่ 28 ก.ค.2562 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า
ขอถวายพระพร เจริญพระราชสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล พระชนมสุขทุกประการ จงมีแด่ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ
อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงความปีติโสมนัส และขอถวายพระพรชัยมงคล
ข่าวน่าสนใจ:
- นราธิวาส-กรรมกำลังทำงาน - ปมสังหาร "นายกอาร์ม"
- วธ.จังหวัดนครปฐมส่งเสริมประเพณี “ลอยกระทง วิถีไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ประจำปี 2567 “คืนจันทร์เพ็ญงามอร่ามตา สืบสานรักษาคลองเจดีย์บูชา…
- รมว.ท่องเที่ยว ชวนลอยกระทง "สีสันแห่งสายน้ำฯ" สร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- เทศกาลลอยพระประทีปพระราชทาน สิบสองเพ็ง ไทสกล ปี 2567 จังหวัดสกลนคร
บัดนี้ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ทรงรับพระบรมราชาภิเษก ตามโบราณขัตติยราชประเพณีทุกประการ พร้อมทั้งพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการที่จะทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร ดุจเดียวกับที่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ได้ทรงปฏิญาณพระองค์ เป็นแนวทางดำเนินพระราชจริยาสืบมาทุกรัชสมัย อันว่าพระราชธรรมสำหรับพระมหากษัตริย์นั้นมี ๑๐ ประการ เรียกว่า “ทศพิธราชธรรม” ประกอบด้วย การให้, การสังวรระวังกายวาจา ให้เป็นปรกติ, การบริจาคเพื่อบรรเทาความโลภ, ความซื่อตรง, ความอ่อนโยน, การกำจัดความเกียจคร้านและความชั่ว, ความไม่มักโกรธ, ความไม่เบียดเบียน, ความอดทน และการดำรงความยุติธรรม
เมื่อใด พระมหากษัตริย์ทรงดำรงทศพิธราชธรรม ให้บริบูรณ์ด้วยดีในพระองค์ เมื่อนั้น พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท และราษฎร ย่อมสวามิภักดิ์ พร้อมพลีกำลังกาย กำลังความคิด สนองพระเดชพระคุณโดยความซื่อสัตย์สุจริตและกตัญญู ปรากฏพระปีติโสมนัสมาสู่ดวงพระราชหฤทัย ในขณะเดียวกัน ประชาชนทุกคนก็พึงทำความแยบคายในใจให้ถ้วนถี่ว่า ทศพิธราชธรรมนี้ หาได้เป็นพระราชปฏิบัติสำหรับพระมหากษัตริย์แต่ฝ่ายเดียวไม่ ด้วยเหตุที่ความรุ่งเรืองของชาติบ้านเมือง จำเป็นต้องอาศัยกำลังพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ช่วยกันทำหน้าที่ ตามฐานะของตนๆ เพื่อสนองพระบรมราโชบาย จนบังเกิดผลสัมฤทธิ์ได้สมพระราชปรารถนา เพราะฉะนั้น ในฐานะผู้อาศัยใต้พระบรมโพธิสมภาร จึงพึงศึกษาและน้อมนำธรรมะทั้ง ๑๐ ประการข้างต้น มาเป็นวิถีการดำรงตนโดยทั่วหน้ากัน
ณ อุดมสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา อาตมภาพขออัญเชิญนิพนธคาถาแห่งสุขาภิยาจนคาถา มากล่าวอ้างเป็นสัจจวาจา ว่า
มาตา ปิตา จ อตฺรชํ นิจฺจํ รกฺขนฺติ ปุตฺตกํ
เอวํ ธมฺเมน ราชาโน ปชํ รกฺขนฺตุ สพฺพทา ฯ
ความว่า “มารดาและบิดา ย่อมถนอมบุตรน้อยอันบังเกิดในตนเป็นนิตย์ฉันใด พระราชาจงทรงรักษาประชาราษฏร์โดยชอบ ในกาลทั้งปวงฉันนั้น”
ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจานี้ ขอประชาราษฎร์ทั้งปวง จงสมัครสมานสามัคคี ประพฤติปฏิบัติตนเป็นเสมือนลูกที่ดี พร้อมเพรียงกันทำนุบำรุงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้วัฒนาสถาพร เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงตั้งพระราชหฤทัยมั่น ในอันที่จะทรงรักษาประชาราษฎร์โดยชอบ ดุจดั่งบิดรมารดา จักได้ทรงปลอดโปร่งพระราชหฤทัย ทรงบริบูรณ์ด้วยพระกำลังที่จะทรงยังราชอาณาจักรไทย ให้ร่มเย็นเป็นสุขใต้ร่มพระบารมีสืบไป
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และพระราชกุศลธรรมจริยา จงอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตราบจิรัฏฐิติกาล เทอญ.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: