เร่งสร้าง เขื่อนปิดกั้นช่องเขาส่วน D โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย เตรียมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ธันวาคมนี้ เสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ภาคอีสาน
โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เร่งดำเนินการก่อสร้าง เขื่อนปิดกั้นช่องเขาส่วน D (Saddle Dam D) แห่งใหม่ เตรียมพร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) ในเดือนธันวาคมนี้ ให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หลังประสบปัญหาเขื่อนปิดกั้นช่องเขาส่วน D ทรุดตัว ในเหตุการณ์ฝนตกหนัก จากอิทธิพลพายุโซนร้อนเซินติญ เมื่อ 23 กรกฏาคม 2561
โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ตั้งอยู่ในแขวงจำปาสัก และแขวงอัตตะปือ ของ สปป.ลาว ประกอบไปด้วย เขื่อนปิดกั้นช่องเขา 5 ส่วน ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง เขื่อนปิดกั้นช่องเขาส่วน D แห่งใหม่ โดยใช้เทคนิคก่อสร้างเขื่อน ด้วยคอนกรีตบดอัด คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ และเสริมความแข็งแรงให้เขื่อนปิดกั้นช่องเขาส่วน E และ F โดยเสริมคอนกรีตในส่วนแกนกลางของเขื่อนดินเหนียวบดอัด ช่วยให้มีความแข็งมากเพิ่มมากยิ่งขึ้น
โดยลักษณะโครงการ จะก่อสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำเซน้ำน้อย และผันน้ำที่ความสูงประมาณ 650 เมตร เข้าสู่โรงไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านล่างของที่ราบสูงโบลาเวน น้ำที่ผ่านโรงไฟฟ้า จะไหลลงสู่แม่น้ำเซกอง เพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเซน้ำน้อย เพื่อผลิตไฟฟ้า ซึ่งอ่างเก็บน้ำมีพื้นที่รับน้ำฝน ปริมาณ 48.26 ตารางกิโลเมตร และความจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 1,043.27 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า 4 เครื่อง แบ่งจำหน่ายไฟฟ้าให้ประเทศไทย 378 เมกกะวัตต์ ตลอดอายุสัญญา 27 ปี นับจากวันซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ในอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุสัญญา เท่ากับ 2.432 บาท/หน่วย(กิโลวัตต์ชั่วโมง)
จะส่งกระแสไฟฟ้าผ่านระบบสายส่งไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ จากสถานีไฟฟ้าแรงสูงปากเซ ส่งต่อกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ประเทศไทย ผ่านสถานีไฟฟ้าแสงสูง 500 กิโลโวลต์ อุบลราชธานี 3 ช่วยเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
