กระทรวงทรัพย์เอาจริงเร่งเดินหน้ากวาดล้างกลุ่มตัดไม้ข้ามชาติ พร้อมแก้กฎหมายเปิดทางทำสวนป่าและที่ทำกิน พระนักพัฒนายื่นหนังสือขอบคุณหน่วยงานบูรณาการแก้ปัญหาที่ดินให้ราษฎร ใน อ.วังชิ้น
เวลา 11.00 น.วันที่ 15 มิถุนายน พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมารร่วมประชุมกับข้าราชการในสังกัดและหน่วยงานที่รับผิดชอบการแก้ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า นำโดยนายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ชั้น 2 รมว.ร่วมเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ สัญจร ครั้งที่ 2 / 2561 เป็นการรับฟังรายงานการแก้ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าในภาคเหนือ การอายัดของกลาง การตรวจยึดไม้ในตู้คอนเทรนเนอร์จังหวัดสมุทรปราการกำลังขนย้ายไม้จากจังหวัดน่าน ไป ยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งไม้ที่จับกุมได้ในเขตรอยต่อจังหวัดแพร่ และ จังหวัดน่าน รับฟังการทำงานของหน่วยพยัคฆ์ไพร หน่วยพญาเสือ หน่วยเหยี่ยวดง หน่วยฉลามขาว
รวมทั้งรวมทั้งการช่วยเหลือสวัสดิการเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฎิบัติงานลาดตระเวนเพื่อคุ้มครองรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าโดยเฉพาะเข้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจัดให้มีการประกันชีวิตหมู่ ร่วมทั้งคุณภาพชีวิตของครอบครัว มีการพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายอีกด้วย
ในการประชุมครั้งนี้ พระฐาปนพงษ์ ฐานิสโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดปางมะโอ หมู่ 12 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ ผู้แทนชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากแนวเขตป่าไม้ทับซ้อนพื้นที่ทำกินของประชาชนได้ยื่นหนังสือขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและข้าราชการในสังกัด ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร และมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ที่มาให้ความช่วยเหลือคลี่คลายความเดือดร้อน กรณีแปรภาพถ่ายทางอากาศตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ 4 พฤษภาคม 2544 มีการกำหนดแนวเขตที่ผิดพลาด ทำให้พื้นที่ป่าสงวนที่กำหนดแนวเขตใหม่ไปทับที่ดินปลูกไม้สักตามเอกสาร ส.ท.ก.ที่กรมป่าไม้ออกให้ เมื่อ พ.ศ. 2529 และแปลงปลูกไม้สักที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมเกษตรกรรมปลูกป่าของกรมป่าไม้ พ.ศ. 2537-2538 ทำให้ราษฎรบ้านปางมะโอเสียสิทธิ์จะได้ ส.ป.ก.4-01 ไปนั้น จังหวัดแพร่ได้ตั้งคณะทำงานเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว ซึ่งได้รับการแก้ไขประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา มีผลสรุปมติคณะทำงานดังกล่าว สมควรมอบพื้นที่ทำกินที่ตรวจพบการทับซ้อนจำนวน 1,500 ไร่ 1 งาน 92 ตารางวาให้ส่งมอบให้กับสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนำไปออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 ส่วนพื้นที่ที่ตรวจพบว่าเป็นที่ทำกินแต่ไม่มีผู้เข้ามาแจ้งรับสิทธิ์ ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินร่วมกับชุมชนพัฒนาเป็นป่าชุมชนจำนวนกว่า 500 ไร่ ซึ่งต้องแจ้งให้ รมว.กระทรวงทรัพย์รับทราบเพื่อให้หน่วงงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขอมติ ครม.มอบพื้นที่ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมดำเนินการจัดที่ดินให้กับราษฎรต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: