คณะอนาคตใหม่จังหวัดแพร่ ออกแถลงการณ์ประณาม ส.ส.ในสังกัดย้ายพรรค แฉเบื้องหลังเผ็ดร้อนของผู้นำพรรคอนาคตใหม่ไม่ให้ความสำคัญทำให้นำไปสู่การยุบพรรคและเป็นรอยร้าวภายใน
ตลอดทั้งวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีประชาชนจับกระแสการตัดสินใจของสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ในจังหวัดต่าง ๆ หลังพรรคถูกยุบได้เพียง 4 วัน พบว่ามีงูเห่าเกิดขึ้น โดยเฉพาะที่จังหวัดแพร่มี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่จำนวน 2 คนย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่งผลให้แฟนคลับผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่และผู้ที่ไปลงคะแนนเลือกนายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส.เขต 1 จังหวัดแพร่ และ นายกิตติเดช สันติวชิรกุล ส.ส.เขต 2 จังหวัดแพร่ ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความไม่พอใจทั้งในการสื่อสารช่องทางโซเชียล โดยเฉพาะทางเฟซบุ๊ก มีการคอมเม้นท์ด้วยข้อความที่รุนแรง
ในช่วงเย็นของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ มีประชาชนและแฟนคลับของพรรคอนาคตใหม่พากันมารวมตัวที่ที่ทำการสาขาพรรคอนาคตใหม่ ภายในกาดน้ำทอง ต.นาจักร อ.เมืองจังหวัดแพร่ ซึ่งทางสำนักงานศูนย์ประสานงานพรรค ได้เปิดให้มีการเขียนข้อความแสดงความเห็นต่อการย้ายพรรคของ ส.ส.ทั้งสองคน มีประชาชนมารวมตัวกันกว่า 200 คน นายอำนวย พลหล้า หัวหน้าศูนย์ประสานงานคณะอนาคตใหม่จังหวัดแพร่ ได้อ่านแถลงการณ์ประณามการกระทำของ ส.ส.ทั้งสองคน มีข้อความโดยสรุปว่า ส.ส.ทั้งสองคนมาจากคะแนนเสียงชาวแพร่ 1.2 แสนคน ได้ขึ้นเป็น ส.ส.หน้าใหม่ แต่เมื่อได้ตำแหน่งแล้วไม่เคยให้ความสำคัญกับคะแนนเสียงเหล่านี้ เป็นคนตะบัดสัตย์ต่อประชาชน และอุดมการณ์ของพรรคอย่างร้ายแรง โดยทางคณะอนาคตใหม่ขอประณามการกระทำของ ส.ส.ทั้งสองคนที่เห็นแก่เงินมากกว่าอุดมการณ์
หลังจากนั้น ผู้ที่เข้ามาร่วมได้ร่วมกันประกอบพิธี คล้ายพิธีศพ ให้กับ ส.ส.ตระบัดสัตย์ทั้งสองคน ที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานคณะอนาคตใหม่ โดยการขึ้นรูปของ นายเอกการ ซึ่อทรงธรรม และ นายกฤติเดช สันติวชิรกุล ประดับด้วยพวงหรีด และดอกไม้ธูปเทียนประดุจพวกเขาได้ตายไปจากความทรงจำแล้ว
แหล่งข่าวกล่าวว่า การย้ายพรรคของ ผู้สมัคร ส.ส.ของจังหวัดแพร่ ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย นั้นเบื้องหลังมีที่มาที่ไปซับซ้อน จากวงในของรัฐสภา ซึ่งมีส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ มีการขอร้องบางประการแต่ผู้นำของพรรคอนาคตใหม่ไม่ให้ความสำคัญทำให้นำไปสู่การยุบพรรคและเป็นรอยร้าวภายในของพรรคอนาคตใหม่ จนเป็นที่มาของการไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยของ ส.ส.จำนวน 9 คน และจะย้ายออกอีกชุดหนึ่งในเร็วๆ นี้ไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ สาเหตุของ ส..ส.แพร่ทั้งสองคนต้องไปอยู่พรรคภูมิใจไทย เนื่องจาก มีความใกล้ชิดในผู้อาวุโสของพรรคที่เกี่ยวข้อง กับ ส.ส.แพร่ในอดีตที่ใกล้ชิดกับภูมิใจไทย เพื่อรอให้เกิดพรรคใหม่ของคนภาคเหนือ ส.ส.ทั้งสองคนจะย้ายกลับเข้ามาสังกัด แต่ในการย้ายออกไปสู่ฝ่ายรัฐบาล นั้นมีแนวคิดที่จะหาทางพัฒนาจังหวัดแพร่มากกว่าการขายตัว โดยเฉพาะงานในกระทรวงคมนาคม และ กระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังไม่เป็นที่เปิดเผย อาจต้องรอให้กระแสต่อต้านผ่อนคลายลงจะมีการออกมาทำความเข้าใจกับประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักการเมืองในซีกของไทยรักษาชาติ และประชาธิปัตย์ ให้ความสนใจ ส.ส.ทั้งสองคนแต่การไปสังกัดพรรคใดพรรคหนึ่งดังกล่าวอาจไม่เป็นที่พอใจของผู้ใหญ่ทางการเมืองบางคนที่ ส.ส.ทั้งสองคนเคารพและเกรงใจ จึงมีช่องทางเดียวที่ต้องไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่วนการอยู่ต่อไปในคณะอนาคตใหม่เป็นสิ่งที่ยากยิ่ง
