เจ้าหน้าที่ทำงานหนักตลอดสามสี่วันที่ผ่านมา ผู้นำชุมชนอ่วม เดินป่าดับไฟ มีรายงานฮ็อตสปอตขึ้นเป็นดอกเห็ดชาวบ้านไม่ฟังข้อห้ามเผาป่าจนเกิดหมอกควันฝุ่นละอองหน้าแน่นในสภาวะอันตราย
เวลา 13.00 น.วันที่ 31 มีนาคม เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่สวนป่าแม่จั๊วะ หมู่ 2 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ต้นเพลิงเริ่มบริเวณริมทางหลวงหมายเลข 101 ลุกลามเข้าสวนป่าไม้สัก เปลวเพลิงลุกลามเข้าที่พักริมทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลแม่จั๊วะ เข้ามาสกัดเพลิงที่ลุกลามออกไปอย่างรุนแรง สามารถรักษาศาลาที่พักริมทางไว้ได้ การเกิดไฟไหม้ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเองแต่เกิดจากมีผู้ไม่หวังดีจุดไฟลุกลามดังกล่าว ตลอดระยะเวลา 3-4 วันที่ผ่านมามีไฟลุกไหม้พื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่องใน 8 อำเภอ แม้ว่าจะมีมาตรการเข้มงวดของทางจังหวัดแพร่ ก็ตาม
ที่บ้านแม่ลัว ม.4และ ม.6 ตำบลป่าแดง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีไฟป่าลุกไหม้รุนแรงทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในป่าต้นน้ำสำคัญของจังหวัดแพร่
โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันพัฒนาป่าไม้เมืองแพร่,เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.9 (ช่อแฮ) นำโดยนายพูน แจ่มใส หน.หน่วยฯพร.9 (ช่อแฮ) ร่วมกับ,เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน (หน่วยพิทักษ์ลน.1เชิงทอง พื้นที่ถูกไฟไหม้อยู่ในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่ก๋อน – แม่สาย และพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน พบจุด Hotspot มากถึง 9 จุดแม้ว่าเป็นป่าชุ่มน้ำ ยังพบมีไฟไหม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ต้า บริเวณบ้านต้าเหล่า ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ ยังมีรายงานไฟป่าเพิ่มขึ้นทุกอำเภอ โดยขาดการควบคุม
นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สั่งการด่วนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประสานกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกพื้นที่ตั้งจุดคัดกรองเฝ้าระวังคนเข้าป่าและลาดตะเวนหลังจากมีจุด hotspot เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเฉพาะในสัปดาห์นี้มีไฟป่าเกิดขึ้นหลายพื้นที่
ไฟป่าดังกล่าวส่งผลให้เกิดมลภาวะในพื้นที่ตัวเมืองแพร่ และเมืองอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน มีรายงานข่าว ประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่างไม่พอใจพากันใช้ช่องทางโซเซียลออกมาโจมตีการทำงานของทางราชการที่หย่อนยาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: