เวลา10.00 น.วันที่ 14 กันยายน กลุ่มต้านโรงไฟฟ้าชีวมวลบริษัท พีเอสที เอ็นเนอร์ยี่ 1 ที่หมู่ 7ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ส่งตัวแทนชาวบ้านจำนวน 200 คน มาที่หน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ พร้อมถือป้ายมีข้อความต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้รวบรวมรายชื่อชาวบ้านใน 12 ตำบล ได้แก่ ต.ร่องฟอง ต.เหมืองหม้อ ต.บ้านถิ่น ต.กาญจนา ต.แม่หล่าย ต.ทุ่งโฮ้ง ต.ทุ่งกวาง ต.ป่าแดง ต.น้ำชำ ต.ห้วยม้า ต.สวนเขื่อน ต.แม่ยม อ.เมือง จ.แพร่ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนยื่นคัดค้านการสร้างโรงงานใกล้ชุมชน ต้องการส่งให้ถึงมือ นายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่โดยตรงและต้องการทวงถามข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่ไม่ต้องการโรงไฟฟ้าชีวมวลตั้งใกล้ชุมชนที่ส่งมายังศูนย์ดำรงธรรมมีความคืบหน้าอย่างไร และ กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ไปรับข้อมูลจากบริษัทเอกชนที่เข้ามาซื้อที่ดินและเริ่มพาชาวบ้านไปดูงานแต่ไม่นำข้อมูลมาบอกชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าจะมีการสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 28.5 เมกกะวัตต์ในชุมชน ไม่ทำความเข้าใจหันไปเข้าข้างนายทุน
นายสมาน ผูกพัน แกนนำชาวบ้าน ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ กล่าวว่า โครงการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลซึ่งเป็นของรัฐมอบให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการ แทนที่จะมาประชุมชาวบ้านบอกผลดีผลเสียและร่วมกันตัดสินใจกลับไม่ทำ ไปใช้วิธีการปกปิดข้อมูล รู้กันเพียงกลุ่มผู้นำเท่านั้น กว่าชาวบ้านจะได้รับทราบโรงงานได้ซื้อที่ดินไปแล้วชาวบ้านต้องการฟังจากปากผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ว่าจะแก้ปัญหาให้ชาวบ้านอย่างไร และพวกราชการ ผู้นำในสังกัดมหาดไทยทำไมไม่ฟังเสียงชาวบ้านไปฟังแต่นายทุน ชาวบ้านเครือข่ายต้านโรงไฟฟ้าชีวมวลใน 12 ตำบลได้เข้าชื่อพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนเป็นเครื่องยืนยันในการคัดค้าน นายสมานกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มต้านโรงไฟฟ้ารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกมาพบเพื่อรับข้อมูลโดยตรงจากนั้นนายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้ออกมาพบกลุ่มผู้ชุมนุมพบปะทักทายอย่างเป็นกันเองจากนั้นได้รับหนังสือข้อเรียกร้องและเอกสารการเข้าชื่อแสดงความคิดเห็นต้านโรงไฟฟ้าชีวมวลต่อหน้าประชาชนที่มาชุมนุม
นายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดยังไม่ได้ดำเนินการใดใดในเรื่องสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นเรื่องของบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการยังไม่ถึงการขออนุญาตใดใดทางจังหวัดจึงยังไม่สามารถตอบข้อเรียกร้องได้แต่ยินดีที่ชาวบ้านออกมาแสดงเจตนารมย์ชัดเจน จังหวคดจะรับหนังสือและเอกสารไว้ และรับรองว่าถ้ามคการเคลื่อนไหวทางราชการจะแจ้งให้ชุมชนทราบโดยตรง ส่วนข้าราชการและผู้นำท้องที่ท้องถิ่นไม่ให้ความร่วมมือกับชาวบ้านก็คงต้องดูเป็นกรณีไป
นายพงษ์รัตน์กล่าวด้วยว่าในพื้นที่ จ.แพร่ มีการขอสัมปทานในหลายกรณี มีประชาชนออกมาคัดค้านซึ่งจังหวคดจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นประชาธิปไตยที่สุดโดยต้องฟังเสียงของผู้เดือดร้อนให้มากมี่สุด
หลังผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่รับหนังสือแล้วกลุ่มแกนนำได้ฝากข้อผัญหาต่อผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรงโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหาร เทศบาล และ อบต.ในพื้นที่ทำตัวเข้าข้างนายทุน จากนั้นกลุมผู้ชุมนุมได้สลายตัวกลับออกจากศาลากลางในเวลา12.00น.///
