แพร่- เทศบาลตำบลสวนเขื่อน จังหวัดแพร่ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในอาคาร และบ้านพักอย่างต่อเนื่องหากพบอุปกรณ์เสื่อม หรือหมดสภาพการใช้งานควรแก้ไข หรือเปลี่ยนใหม่ทดแทนขณะเดียวกัน จะพัฒนาเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ในทุกชุมชน ให้สะดวก ลดสิ่งกีดขวางให้น้อยที่สุด เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และเอื่อต่อการเผชิญเหตุต่างๆ โดยเฉพาะเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งที่ผ่านมาจะพบว่า การเข้า-ออก ของเจ้าหน้าที่ และรถดับเพลิง เป็นอุปสรรค์สำคัญในการปฏิบ้ติของเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 15.37 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2561 นายฌาญณริฐน์ พรมวัง นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน พร้อมรถดับเพลิงนำเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ เข้าระงับเหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ 1 ตำบลสวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ ได้รับประสานความร่วมมือจากศูนย์วิทยุสื่อสารอำเภอเมืองแพร่ (ศูนย์ช่อแฮ) ขอสนับสนุนรถดับเพลิง และรถบรรทุกน้ำ จากองค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆ เข้าระงับเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไฟกำลังลุกไหม้ชั้นบนของตัวบ้าน มีนายเข่ง คำทอน และนางเหมือน คำทอน เป็นเจ้าของบ้าน ขณะที่ผู้เห็นเหตุการ เล่าว่า ระหว่างที่ควันไฟพวยพุ่งออกมาจากตัวบ้านหลังดังกล่าว สังเกตุดูแล้วไม่เห็นนายเข่ง และภรรยา อยู่ในบ้านพัก ก็พยายามตะโกนเรียกเพื่อนบ้านไปช่วยกันสำรวจ และดับไฟ แต่ไม่สามารถดับไฟที่ตัวบ้านได้ เพราะขณะนั้นมีลมพัดมาในหมู่บ้านทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน รถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองแพร่ เทศบาลตำบลบ่านถิ่น ทต.ทุ่งโฮ้ง ทต.ช่อแฮ องค์การบริหารส่วนตำบลนาจักร อบต.กาญจนา อบต.ป่าแดง อบต.ห้วยม้า และอบต.ร่องฟอง มาถึงที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถเข้าไปใกล้กับบ้านหลังเกิดเหตุได้ เพราะเส้นทางเข้าไปในหมู่บ้านแคบมาก เบื้องต้นแม้จะพยายามฉีดน้ำจากถนนด้านนอกหมู่บ้านเข้าไปแต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เจ้าหน้าที่ต้องต่อสายน้ำดับเพลิงจากรถบรรทุกน้ำที่อยู่นอกหมู่บ้าน เดินท่อเข้ามาภายในหมู่บ้าน จนถึงที่เกิดเหตุ จึงสามารถใช้น้ำฉีดกับไฟที่ลุกไหม้ได้ แต่ก็ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง
นายฌาญณริฐน์ พรมวัง นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน เปิดเผยว่า อุปสรรค์สำคัญในการเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ รวมทั้งเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชุมชน ถนนที่ใช้สำหรับสัญจรเพื่อเข้า-ออกบ้านแต่ละหลังของชุมชนยังไม่มีการพัฒนา ทำให้เส้นทางเล็กรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไปก็ไม่สามารถเข้า-ออกในชุมชนได้แล้ว และหากเป็นรถดับเพลิง ที่มีรูปทรงเฉพาะ และใหญ่กว่ารถบรรทุกขนาดเดียวกันแล้ว ต้องใช้ความสามารถ ของคนขับ เพื่อนำรถผ่านซอยเข้าไป แต่ขณะเดียวกัน ก็จะไม่มีรถที่สามารถสวนออกมาได้ และยังรวมไปถึง ทางแยกที่จะสามารถใช้เป็นจุดกลับรถเข้า-ออก หมู่บ้าน ก็เล็กเกินกว่าจะใช้กลับรถได้ และในบ้านหมู่บ้านก็ไม่มีจุดที่จะใช้กลับรถ นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งอุปสรรค์สำคัญที่กระทบต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพื่อการระงับเหตุเพลิงไหม้ รวมทั้่งกรณีต่างๆ ที่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือมาจากชาวบ้าน
ทว่า ผลจากเหตุเพลิงไหม้ในหมู่บ้าน และผลการปฏิบัติที่ผ่านมา เมื่อนำมาทบทวนกันแล้ว ก็นับว่าเป็นปัญหากับชุมชนในชนบทอย่างมากที่มีการสร้างบ้านโดยไม่มีการวางแผน หรือวางผังการสร้างชุมชน จึงทำให้เกิดปัญหาตามมาเช่นเหตุไฟไหม้ รถดับเพลิงก็ไม่สามารถเข้าพื้นทีได้ ระยะนี้ จึงให้เจ้าหน้าที่ของเทศบาล พยายามช่วยกันขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ และใกล้เคียง สำรวจอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ และควรเปลี่ยนหรือแก้ไขทันทีเมื่อพบว่าอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย ขณะเดียวกัน ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านอยู่เป็นประจำ และทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงผ่านฤดูฝนไปเข้าสู่ฤดูหนาว ต้องระวังเป็นพิเศษ ที่สำคัญคือการพัฒนาเส้นทางเข้าบ้าน ทุกชุมชนควรเตรียมพร้อม เพื่อไม่ให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดซ้ำอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: