พื้นที่ป่ายางงาม เป็นดงต้นยางนาขนาดใหญ่จำนวน 14 ไร่อยู่ริมแม่น้ำยม ในหมู่ 10 บ้านศรีดอนชัย ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ เป็นสถานที่ทำกิจกรรมของชุมชน ชาวบ้านใช้เป็นสถานที่อนุรักษ์ต้นยางมานาน ในอดีตทางราชการร่วมกับนายทุนลักลอบออกโฉนด ที่ดินป่ายางงามตกเป็นของนายทุนแต่ชาวบ้านได้ออกมาร่วมประท้วงจนได้ปางยางงามกลับคืนในปี 2548 เมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา ออกเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ดินสาธารณประโยชน์เป็นป่าชุมชน หลังได้พื้นที่คืนชาวบ้านได้ร่วมกันกับกองทุนเพื่อสังคม sif อนุรักษ์ป่ายางงามและจัดเป็นสถานที่กิจกรรมศูนย์เรียนรู้ต่อเยาวชนและปฏิบัติธรรม
ล่าสุดนางระดับ คำเขียว นายก อบต.ทุ่งแล้ง ได้สั่งการให้นางสาวเทพศิรินทร์ เบี้ยะจรัส รองปลัด อบต.ทุ่งแล้ง ไปแจ้งความดำเนินคดี ฐานบุกรุกที่ดินสาธารณะ และประกาศห้ามไม่ให้ชาวบ้านและพระนิวัฒน์ เปมสีโรพระสงฆ์เข้ามาทำกิจกรรมในป่ายางงาม การแจ้งความดำเนินการในปี 2559 แต่ชาวบ้านไม่ปฏิบัติตามเพราะถือว่า ชาวบ้านเป็นเจ้าของเป็นที่ดินสาธารณะ การดำเนินการใดใด จะต้องจัดเวทีประชาคมเพื่อให้ชาวบ้านแสดงความคิดเห็นก่อนห้ามไม่ให้ประชาชนเข้ามาทำกิจกรรมในพื้นที่ดังกล่าว
- นางดา นำพล อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 10 บ้านศรีดอนชัย ฯ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่ายางที่ชาวบ้านเรียกร้องจนได้คืนมาจากนายทุนที่ร่วมกับทางราชการออกโฉนดฮุบไปเป็นส่วนตัว หลังจากนั้นชาวบ้านได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม เป็นที่ศึกษาดูงานธรรมชาติกับพุทธศาสนาของเยาวชนโรงเรียนในพื้นที่ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้สูงอายุในชุมชนได้เข้ามาพักผ่อน แต่ อบต.ทุ่งแล้ง ไม่อนุญาตให้สร้างอาคาร และทำหนังสือขับไล่ไม่ให้ชาวบ้านทำกิจกรรม ชาวบ้านทั้งชุมชนและผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาจึงร่วมกันบริจาคเงินสร้างอาคารและพระพุทธรูปกลางป่ายางโดยไม่ทำลายต้นยางเป็นการแสดงความให้เห็นว่าชุมชนเป็นเจ้าของ เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในการเข้ามาปฏิบัติธรรม
นางสมหวัง มาเรียน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่10 บ้านศรีดอนชัย ฯ กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านเรียกร้องจนได้ป่ายางคืนจากนายทุน ได้ทำเป็นที่ปฏิบัติธรรม ปัจจุบันทุกคืนชาวบ้านมาร่วมฟังธรรม และ ปฏิบัติตามกรอบของพุทธศาสนิกชน ชาวบ้านสามารถสวดมนต์ได้ทุกคน พร้อมน้อมนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ และปลูกฝังไปสู่เยาวชนทำให้เยาวชนในหมู่บ้านประพฤติดี กิจกรรมแบบนี้ อบต.ทุ่งแล้งไม่ต้องการหรือ
นางปุ๊ด หิงคำ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 /2 หมู่ 10 บ้านศรีดอนชัยฯ กล่าวว่า อยากขอวิงวอนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กรุณาชาวบ้านลงมาดูความทุกข์ยากที่ทางราชการทำกับชาวบ้าน ควมมเดือดร้อนนี้ ชาวบ้านได้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอของแล้ว ไปร้องต่อทหารจากค่าย ม.พัน 12 และ เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ แล้ว แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ
พระนิวัฒน์ เปมสีโร กล่าวว่า อาตมาได้รับนิมนต์จากชาวบ้านศรีดอนชัยให้มาอยู่ที่วัด แต่ทางชาวบ้านต้องการพัฒนาป่ายางงานเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมศูนย์เรียนรู้ทางธรรมชาติและธรรมะ มีเพียง ทางอบต.ทุ่งแล้งไม่ฟังเสียงชาวบ้านจึงออกมาขับไล่ อาตมาอยู่ตามศรัทธาของชุมชน ถ้าทางราชการไม่ต้องการให้อยู่อาตมาก็คงต้องไปจากที่นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาว เทพศิรินทร์ เบี้ยะจรัส รอง ปลัด อบต.ทุ่งแล้ง เข้าแจ้งความดำเนินคดีขับไล่ชาวบ้านและพระสงฆ์ตั้งแต่ปี 2559 จนเรื่องเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล ขณะนี้อยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ การตัดสินคดีดังกล่าวศาลจังหวัดแพร่ ต้องการให้มีการไกล่เกลี่ยมากกว่าการใช้กฎหมายบังคับโดยได้ให้เวลาระหว่างทางราชการกับชุมชนได้ตกลงกัน คำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจะถึงกำหนดในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ แต่ทาง อบต.ทุ่งแล้งต้องการให้ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ทำให้ไม่สามารถเจรจากันได้ จนชุมชนเรียกร้องให้ศูนย์ดำรงธรรมเข้ามาเป็นตัวไกลเกลี่ย แต่ทางศูนย์ดำรงธรรมได้เพิกเฉย ชาวบ้านไปหานายอำเภอลอง หลายครั้งแต่ไม่ให้พบตัว ปัจจุบันเป็นช่วงที่ศาลมีเมตตาเปิดให้มีการเจรจา ชาวบ้านจึงขอพึ่งบารมีของผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ถึงขั้นกราบขอวิงวอนให้ลงมาช่วยชาวบ้านและพระสงฆ์ด้วย
