X

เปิดปมไม้สักทองธรณีสงฆ์หาย ตั้งคำถามกรมชลฯ ป่าไม้สำนักพุทธฯ รู้เห็น จี้ผู้ว่าแพร่สอบ


เปิดปมไม้สักทองธรณีสงฆ์หาย ตั้งคำถามกรมชลฯ ป่าไม้สำนักพุทธฯ รู้เห็น จี้ผู้ว่าแพร่สอบหาตัวการ

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ซึ่งขณะที่โครงการดำเนินการไปเกินกว่าร้อยละ 50 แล้ว แต่พบว่า ยังไม่มีการจ่ายค่าเวนคืนประกอบด้วยค่ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต้นไม้ที่สำรวจไว้แล้ว และค่าที่ดิน ซึ่งจำแนกออกเป็นกลุ่มที่มีเอกสารสิทธิ์และกลุ่มที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ในจำนวนนี้มีที่ดินธรณีสงฆ์ จำนวน 2 แปลง ซึ่งมีเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3 ก. การเวนคืนทั้งหมดยังไม่มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าของที่ดิน และที่สำคัญยังไม่มีการทำผาติกรรมยกเลิกกฤษฏีกาที่ดินสงฆ์ จำนวน 2 แปลง รวม 5 ไร่เศษแต่อย่างใด

ซึ่งวัดแม่แคมได้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมว่า ทางวัดยินดีมอบที่ดินให้กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อสร้างความเจริญให้กับบ้านเมืองตามแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่พบว่ากรมชลประทานยังไม่ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการในการจัดการที่ดินให้เป็นไปตามกฎหมาย ล่าช้ามานานจนอ่างเก็บน้ำสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 50 ส่วนหนึ่งปัญหาที่กรมชลประทานยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้คือการปล่อยให้ไม้สักทองตามบัญชีสำรวจ 260 ต้น พร้อมไม้กระยาเลย ไม้ผล รวมทั้งหมดกว่า 500 ต้น ซึ่งเป็นทรัพย์สินของวัดแม่แคมหายไปทั้งหมด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ได้ทำการประชุมหารือร่วมกันระหว่างป่าไม้ ชลประทาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาลตำบลสวนเขื่อน ตำรวจ ภ.จว.แพร่ ที่ดินจังหวัดแพร่ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ ตัวแทนโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม และตัวแทนวัดแม่แคมที่ศาลาวัดแม่แคมวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่สามารถหาข้อยุติได้ โดยเฉพาะ ในโครงการอ่างเก็บน้ำ มีการสร้างสำนักงานและที่พักคนงานพร้อมทั้งอาคารสปิลเวย์ แนวสันเขื่อน บริเวณที่ดินของวัดแม่แคมและโรงเรียนแม่แคม และที่ดินชาวบ้านไม่มีใครตอบได้ว่าไม้สักมีค่าทั้งหมดที่อยู่ในที่ดินของวัดแม่แคมหายไปไหน

แหล่งข่าวในชุมชนบ้านแม่แคมเปิดเผยถึงวันที่มีการตัดไม้สักทองและไม้กระยาเลยของวัดออกไปว่า ในวันนั้นปี พ.ศ. 2562 นายประทวน แจ้งใจ ผู้รักษาความสงบในหมู่บ้านแม่แคม นำความเข้าแจ้งเจ้าอาวาสวัดแม่แคมว่า โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำนำแบ็คโฮเข้าโค่นล้มไม้วัดหมดแล้ว เจ้าอาวาสวัดแม่แคมจึงได้แจ้งไปยัง นางอนันยา เจียมศรีพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบพื้นที่เข้าร่วมด้วย นางอนันยา ได้เดินทางมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศานาจังหวัดแพร่คือนางสุภารัตน์ อุตศรี พบรถแบ็คโฮของโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำ ว่าจ้างคนขับรถแบ็คโฮที่เป็นคนท้องถิ่นทำการโค่นต้นมะขาม ต้นไม้สักและไม่อื่นๆ จนเกือบหมดแล้ว นางอนันยา ได้สั่งการให้หยุดการกระทำดังกล่าวเนื่องจากเป็นการบุกรุกที่ดินภายใต้กรรมสิทธิ์กรมการศาสนา ที่ยังไม่มีการทำผาติกรรม ในขณะที่โค่นต้นไม้ดังกล่าวมีความผิดกฎหมายป่าไม้ การทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้ามาในเหตุการณ์แนะนำให้เผาทิ้งทั้งหมดเพราะเป็นการกระทำที่ระเมิดกฎหมาย เรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำอยู่ด้วย แต่พอรุ่งเช้าของอีกวัน ไม้ที่ตัดโค่นถูกลำเลียงหายไปจนหมด ไม่มีร่องรอยการเผาใดใด ต่อมา เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดแพร่ และ นางอนันยา เจียมศรีพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯถูกสั่งย้ายโดยไม่ทราบว่าเป็นสาเหตุใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการรู้เห็น คือ เจ้าหน้าที่สร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และที่สำคัญผู้อำนวยการสำนักพุทธฯจังหวัดแพร่ อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย มีคำสั่งให้หยุดการบุกรุกดังกล่าวด้วย


จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวแสดงว่ามีผู้รู้เห็นการหายไปของไม้มีค่าที่อยู่บนธรณีสงฆ์วัดแม่แคม อย่างแน่นอน และที่สำคัญผู้ที่รู้เห็นในส่วนผู้รับผิดชอบถูกย้ายออกไปจากจังหวัดแพร่โดยไม่ทราบสาเหตุ บุคคลเหล่านี้สามารถสืบค้นหาความจริงได้อย่างแน่นอน ทางนายพิทักษ์ชัย รักสุข ผู้แทนเจ้าอาวาสวัดแม่แคมกล่าวว่า ข้อมูลมีขนาดนี้ชลประทานยังปัดความรับผิดขอบ ทั้งๆ ที่วัดแม่แคมต้องการมอบที่ดินให้กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพราะความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่สืบทอดมานานในความเป็นคนไทย การสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งนี้จะมีคุโณปการต่อสังคมอย่างใหญ่หลวง แต่มีการดำเนินการอย่างโปร่งใสบริสุทธิ์ไม่น่าเกิดขึ้น ไม่ควรมาหากินกับโครงการอันทรงคุณค่า ขอเรียกร้องให้นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ทำการสอบสวนให้เห็นผู้ที่กระทำผิดดังกล่าวเพื่อเอาผิดตามกฎหมาย การที่ป่าไม้พบเห็นการโค่นไม้สักถือว่าผิดกฎหมายมีการทำไม้โดยไม่ได้ขออนุญาตเห็นความผิดซึ่งหน้า แต่ไม่ดำเนินการจับกุม เจ้าหน้าที่สำนักพุทธสั่งหยุดการบุกรุกแต่ก็ถูกย้ายออกไป ส่วนกรมชลประทานมีผู้บริหารในโครงการร่วมที่จะทำลายไม้เหล่านั้นเพราะพบว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ใครเป็นตัวการเอาไม้ไป ชุมชนมองเห็นอยู่ แต่ขอให้ผ่านกระบวนการสอบสวนให้แจ้งกระจ่างเพื่อย้อนกลับมาทำระเบียบให้ถูกต้อง ทำให้กระบวนการสร้างอ่างเก็บน้ำถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 มีความสง่างามสมพระเกียรติต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระบวนการสร้างอ่างเก็บน้ำที่ดำเนินการอย่างผิดกฎหมายทั้งๆ ที่ทุกฝ่ายต่างสนับสนุนให้สร้าง เป็นเรื่องของผลประโยชน์ของผู้ใดผู้หนึ่งอย่างแน่นอนในขณะที่ค่าเวนคืนประชาชนยังไม่ได้รับ โดยมีกลไกลึกลับพยายามสร้างความเข้าใจผิดให้กับคนในชุมชนว่า เป็นเพราะวัดแม่แคมทำให้ไม่ได้รับค่าชดเชยสร้างความเกลียดชังวัด และเจ้าอาวาส ให้เกิดในสังคมจนกลายเป็นความขัดแย้ง ซึ่งผู้ที่ต้องการเห็นอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ดำเนินการอย่างบริสุทธิ์ถวายในหลวง ทำให้มีข้อเรียกร้องให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ควรเร่งดำเนินการสอบสวนเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษและให้เกิดแนวทางที่เป็นไปตามกฎหมายเร่งสร้างอ่างเก็บน้ำให้ทันฤดูฝนปีหน้าต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน