ไฟป่า ในจังหวัดแพร่ รุนแรง เพิ่มมากขึ้นทุกวัน หน่วยงาน รับผิดชอบ ท้องถิ่นท้องที่ หน่วยป่าไม้ ไม่ให้ความสำคัญ กับการแจ้งเหตุ ไฟไหม้ป่า ผ่าน 191 ยังไม่ให้ความสนใจ กับมาตรการดับไฟ แก้ปัญหาหมอกควัน สภาพอากาศ ฝุ่นละอองหนาแน่น ระดับส่งผลต่อสุขภาพแล้ว
ผู้สื่อข่าว รายงานสถานการณ์หมอกควัน ในจังหวัดแพร่วันที่ 1 มีนาคม นี้ พบว่ามีจุด Hotspot เกิดขึ้นหลายแห่งในจังหวัดแพร่ ซึ่งใน 1 เดือนที่ผ่านมาจังหวัดแพร่มีจุด Hotspot ลดลงกว่าปีที่แล้วกว่าร้อยละ 50 แต่ในขณะนี้ การเผาป่าเริ่มเพิ่มขึ้น ในทุกอำเภอ จนส่งผลต่อสภาพอากาศ โดยรวมเนื่องจากจังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่อยู่ ในพื้นที่ที่มีภูเขาล้อมรอบ และความกดอากาศ สูง ยังคงมีกำลังแรง มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้สภาพทั่วไป ในชุมชนต่างๆของจังหวัดแพร่ มี หมอกควัน ปกคลุมโดยทั่วไป ซึ่งความหนาแน่น ของฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในระดับส่งผลต่อสุขภาพแล้วในขณะนี้ กระบวนการแจ้งเหตุดับไฟป่า จังหวัดแพร่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เน้นให้มีการร้องเรียนแจ้งเหตุไฟป่าผ่านระบบโทรศัพท์ 191 ขอตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เพื่อง่ายต่อการแจ้ง ของประชาชน แต่พบว่า ผลของการแจ้ง ไปยัง 191 ยังไม่สามารถ ประสานงานไปยังหน่วยงาน รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งพบว่า หน่วยดับไฟที่ มีการวางแผน แก้ปัญหาของจังหวัดแพร่ ยังคงมีความพร้อมไม่เพียงพอ
เมื่อ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ตลอดทั้งวัน จนถึง คืนที่ผ่านมา ยังพบว่า มีไฟป่าเกิดขึ้น ต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่อำเภอเด่นชัยเกิดไฟป่าขึ้นบริเวณหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 8 ตำบลเด่นชัย มีเปลวไฟลุก อย่างรุนแรง ในขณะที่ หน่วยงานรับผิดชอบ ยังคงมีกำลังไม่เพียงพอในการเข้าแก้ไขปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้น ปล่อยให้ เชื้อเพลิงหมด ไฟก็จะมอดดับไปเอง จึงส่งผล ให้มีหมอกควันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กำชับ การทำงานโดยเฉพาะกลไก การทำงานแบบบูรณาการ ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มี รถดับเพลิง เจ้าหน้าที่ อส. ประจำอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครในชุมชน และกำลังสำคัญเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยตรง คือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่รับผิดชอบพื้นที่ของตนเองรวมทั้งหน่วยดับไฟป่า ที่มีอยู่ในจังหวัดแพร่ ให้มีความพร้อม ในการดับไฟลดปัญหาหมอกควัน ถ้ามีการ แจ้งเตือนเหตุเกิดไฟป่า ผ่าน หมายเลขโทรศัพท์ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เมื่อได้รับแจ้งหน่วยงานต้องมีความพร้อม ในการออกปฏิบัติงาน เพื่อลดปัญหาหมอกควัน ให้ลดน้อยลง ซึ่งในปีนี้ พบว่า ประชาชนเริ่มตระหนักกลับพิษภัยของหมอกควัน ทำให้การเผาเศษวัชพืชในไร่นาลดน้อยลง เหลือพื้นที่ป่า ที่เกิดไฟไหม้ อย่างต่อเนื่องที่ยังควบคุมไม่ได้ ต้องมีการวางแผน ทำงานกันต่อไป ซึ่งอาจ ต้องควบคุม การเข้าหาของป่าในช่วงนี้ ถ้ายังไม่สามารถควบคุมไฟป่า ให้ลดลงได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าในพื้นที่ภาคเหนือ ตอนบน และตอนล่าง จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 มีนาคมนี้ จังหวัดแพร่เป็นจังหวัดหนึ่ง ที่ต้องเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม พายุฝนฟ้าคะนองตกในพื้นที่ภาคเหนือ จะส่งผลดีในการลดหมอกควันไฟป่าลงได้มาก มากกว่าการบริหารจัดการโดยหน่วยงานรับผิดชอบที่ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ในขณะนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: