เวลา 15.30 น.วันที่ 29 มีนาคม เกิดเหตุไฟป่า ลุกลามในบริเวณ ป่าสงวนแห่งชาติแม่พวก ตกตามเข้าพื้นที่เกษตรกรรม ในเขตหมู่ 8 ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัยจังหวัดแพร่ กิน พื้นที่กว้าง กว่า 50 ไร่ บริเวณริมลำห้วยแม่พวก แปลงไฟลุกลามเข้าสวนหน่อไม้ไผ่ ลุกลามเข้าใกล้ บ้านที่อยู่อาศัย ในขณะที่ เกิดเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านได้ช่วยกันแจ้งไปยัง หน่วยรับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ชี้จุดพิกัด จุดไฟไหม้ เส้นอยู่บริเวณ หลังวิทยาลัยเกษตรกรรมแพร่ หมู่ 8 ตำบลเด่นชัย ซึ่งปรากฏว่าหน่วยรับแจ้งเหตุไม่รู้จักวิทยาลัยเกษตรกรรมแพร่ ทำให้มีการแจ้งข่าวถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยดับไฟที่อยู่ในพื้นที่ล่าช้าไปโหมลุกลามเข้าไหม้อุปกรณ์การทำเกษตรของเกษตรกรโดยเฉพาะระบบส่งน้ำ ได้รับความเสียหาย ไปกว่าร้อยละ 80 หลังจากนั้น หน่วยอาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอเด่นชัย รถดับเพลิงของอบตเด่นชัย รถดับเพลิงของกรมทางหลวง ได้เข้ามาช่วยกัน ป้องกันไฟไม่ให้ลุกลามไปติดบ้าน เลขที่ 53/2 หมู่ 8 ตำบลเด่นชัยโดยใช้น้ำดับเพลิงฉีดพ่นสกัดการลุกไหม้ในขณะที่ใช้ชุดเดินเท้าเข้าตบไฟ ไม่ให้ลุกลามต่อได้สำเร็จ
นายอำนวย สุรินทร์ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 53 / 2 ดังกล่าว ขณะเกิดเพลิงไหม้ ไม่อยู่ในบริเวณบ้าน มีแต่เพื่อนบ้านช่วยกันป้องกัน หลังทราบข่าวได้กลับมาตรวจสอบพบระบบน้ำในแปลงปลูกหน่อไม้ที่ลงทุนไปกว่าแสนบาทได้รับความเสียหายไปกว่าร้อยละ 80 นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์การเกษตรรวมทั้ง พืชหลายชนิดถูกไฟไหม้อย่างน่าเสียดาย นายอำนวยการชื่อว่า ถ้าการแจ้ง เหตุไฟไหม้ มีประสิทธิภาพ ไฟก็คงไม่ลุกลามมาถึงบ้านของตน หวังว่าทางราชการ คงจะมีมาตรการ แก้ไขระบบการแจ้งเหตุไฟป่าในจังหวัดแพร่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นก่อนที่เกษตรกรรายอื่นๆต้องสูญเสียทรัพย์สินไปโดยไม่มีใครรับผิดชอบแบบนี้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์พยายาม ช่วยกันดับไฟแต่เนื่องจาก ไฟลุกไหม้รุนแรง ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ รอให้ทางราชการเข้ามาช่วยแต่ก็ช้าเกินไป ทำให้เกิดความสูญเสีย โดยที่ไม่มีการช่วยเหลือใดๆต่อเกษตรกรรายนี้ ส่วนสาเหตุการเผา น่าจะมาจากกลุ่มที่ลักรอบเก็บไข่มดแดง ในบริเวณลำห้วยแม่พวก ซึ่งคนเหล่านี้ขาดความรับผิดชอบมีการทิ้งก้นบุหรี่ หรือจุดไฟเผาเพื่อให้พื้นที่ป่ามีความโล่งเดินสะดวกเท่านั้นแต่สร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล
