บ้านห้วยกูด หมู่ 5 ต.เด่นชัย อ.เด่นชัย จ.แพร่ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน ปปส.ระบุว่าเป็นพื้นที่สีแดง หนึ่งใน 20,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ดำเนินการโครงการนี้ สภ.ละหนึ่งหมู่บ้าน ในจังหวัดแพร่ มี 18 หมู่บ้านที่ร่วมโครงการ และมีหมู่บ้านที่ดำเนินการอยู่ทั่วประเทศจำนวน 1,483 แห่ง
โดยวันนี้เวลา 13.30 น.วันที่ 6 กรกฎาคม พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่บ้านห้วยกูด หมู่ 5 ต.เด่นชัย อ.เด่นชัย จ.แพร่ เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดฯ พร้อมด้วย พล.ต.ต.มาโนช มีสกุลคุณ ผบก.ภ.จว.แพร่ โดยมีนายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ร่วมตรวจเยี่ยมการทำงานในครั้งนี้ด้วย นายอิสรา สุขแจ่มใส นายอำเภอเด่นชัย ได้กล่าวต้อนรับ พ.ต.อ.วรพล พลมณี ผกก.สภ.เด่นชัย ในฐานะประธานโครงการกล่าวรายงานการทำงาน โครงการดังกล่าวว่า โครงการนี้มุ่งเน้นขจัดยาเสพติดให้หมดไปจากชุมชน โดยเน้นไปที่การทำงานแบบมีส่วนร่วม ทั้งภาคประชาชน ผู้นำหมู่บ้าน ตำรวจชุดชุมชนสัมพันธ์ ตำรวจหมู่บริการชุมชน ร่วมพบปะหารือร่วมกับผู้นำชุมชน รับทราบปัญหาการทำงานของชุมชนและเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา โดยนำปัญหามาวิเคราะห์แยกแยะจัดทำหมวดหมู่โดยมี รอง ผกก.รับผิดชอบ ซึ่งเริ่มโครงการก็พบว่าปัญหาส่วนใหญ่ของชุมชน คือ ปัญหายาเสพติด กลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมขี่จักรยานยนต์ส่งเสียงดัง ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ ถนนชำรุด ปัญหาน้ำเพื่อการเกษตร ฯลฯ ตำรวจเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ไข ซึ่งมีแนวทาง 3 ขั้นตอน คือ เตรียมการ ปฏิบัติการและส่งมอบความสำเร็จ การทำงานจะถูกประเมินผลในรอบ 3 เดือน การทำงานจะมีนายอำเภอออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน ซึ่งคณะทำงานจะเข้า ติดตามสอดส่องโดยใช้กระบวนการรีเอ็กเรย์ มีเป้าหมาย 1,151 คนเมื่อพบผู้ติดยากรรมการจะทำการรับรองแล้วนำเข้าสู่กระบวนการบำบัด ถือเป็นผู้ป่วยไม่ใช่ผู้กระทำผิดกฎหมาย จากนั้นนำเข้าสู่กระบวนการทำ MOU เพื่อรับรองสร้างพันธสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอีก เชื่อว่าจะสามารถส่งมอบความสำเร็จให้ชุมชนได้ ก่อนวันที่ 20 สิงหาคมนี้
พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นวิธีการทำงานเชิงรุกนอกเหนือจากการปราบปราม ตำรวจมีหน้าที่เข้าไปทำงานเชิงรุกร่วมกับชุมชน เพื่อพบผู้ติดยาสามารถนำมาบำบัดเรียกว่าคืนคันดีให้กับสังคม ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องมีส่วนร่วมในการดูแลร่วมกันทั้งชุมชน เมื่อผู้เสพไม่มีผู้ค้าก็คงอยู่ไม่ได้ และถ้าพบเบาะแสผู้ค้าจะเร่งดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด ขณะนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นกำหนดเป้าหมาย โรงพักละ 1 หมู่บ้าน ดังนั้นจังหวัดแพร่ จึงมีการดำเนินการทั้งหมด 18 แห่ง เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือนก็จะประเมินการทำงานว่าประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด จากนั้นถ้าพบว่าส่งผลดีจะขยายผลโครงการให้ครบพื้นที่ที่ ปปส.ระบุว่าเป็นหมู่บ้านที่มีการระบาดของยาเสพติดราว 20,000 หมู่บ้านในขณะนี้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีการกำชับเร่งแก้ปัญหายาเสพติดให้หมดไปทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงของชุมชน ยังคงไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะภาคประชาชนในบ้านห้วยกูด ของเน้นที่ตำรวจต้องทำงานเชิงรุก อย่าอ่อนแรง ชุมชนพร้อมช่วยและพร้อมหาเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อให้บรรลุโครงการ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: