ผู้ว่าฯ แพร่ ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ณ โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำร เผยการจัดการน้ำมีความจำเป็นสำหรับเมืองเกษตรกรรมและลดคว่ามรุนแรงภัยพิบัติ
เวลา 13.00 น. วันนี้ (9 ก.ค.64) ที่โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายชัยพงษ์ สุขยากร ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 บรรยายสรุปถึงผลการดำเนินการก่อสร้างและปัญหาอุปสรรค ความล่าช้าต่างๆ ในการก่อสร้าง
โครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่นั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเปาะ ตามพระราชดำริ และทรงเยี่ยมราษฎร ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเปาะในท้องที่บ้านลู ตำบลห้วยหม้าย อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2525 ได้พระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทานว่า “ควรพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามลำน้ำสาขาต่างๆ ของแม่น้ำยม เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรหมู่บ้านต่างๆ ในเขตอำเภอสอง และอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ให้สามารถมีน้ำทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝน-ฤดูแล้ง และมีน้ำเพื่อการอุปโภคตลอดปีด้วย ตามที่ราษฎรหมู่บ้านต่างๆ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอ่างเก็บน้ำต่างๆ ดังกล่าว ควรพิจารณาก่อสร้างโดยเร่งด่วนตามความเหมาะสมต่อไป” กรมชลประทานจึงได้สนองพระราชดำริดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขนาดความจุระดับน้ำเก็บกัก 8,550,000 ลูกบาศก์เมตร
เกษตรกรรมที่ได้รับประโยชน์ในพื้นที่ตำบลสวนเขื่อน ตำบลกาญจนา ตำบลป่าแดง อำเภอเมืองแพร่ มีพื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 7,500 ไร่ และในฤดูแล้ง 1,000 ไร่ โดยเริ่มแผนงานปีงบประมาณ 2561-2564 เลขที่สัญญา กจ. 23/2562 (สพด.) ลงวันที่ 18 มีนาคม 2562 เริ่มสัญญาวันที่ 21 มีนาคม 2562 ครบอายุสัญญา 4 ธันวาคม 2564 อายุสัญญา 990 วัน ค่าจ้างก่อสร้างทั้งสิ้น 273,880,170 บาท โดย บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด โดยดำเนินการก่อสร้างไปประมาณ 71 % คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565
ชัยพงษ์ สุขยากร ผอ สำนักงานก่อสร้างชลประทารขนาดกลางที่ 4 (แพร่ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร) กล่าวว่า ตามแผนแล้วอ่างแม้แคมจะเปิดใช้ได้ในปี 2564 แต่เนื่องจากมีการปรับแบบและแก้ไขใหม่หลายจุด โดยเฉพาะอาคารระบายน้ำ สปิลเวย์ รวมทั้งการปรับปรุงถนนของกรมทางหลวงชนบทเข้าไปยังหมู่บ้านท้ายเขื่อนที่ต้องเปลี่ยนแนวและปรับความลาดชันให้ได้มาตรฐานกรมทางหลวง ส่วนการเวนคืนกรมชลประทานจ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วร้อยละ 98 เหลือเพียงบางส่วนและพื้นที่วัดแม่แคมที่ทำผาติกรรมเรียบร้อยแล้ว งบประมาณที่ดำเนินการทั้งหมด 270 ล้านบาท
นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า แพร่เป็นเมืองเกษตรกรรมที่ต้องการน้ำจะนวนมากเพนียงพอ อ่างเก็บน้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญ ขณะนี้นอกจากอ่างแม่แคมแล้วยังมีโครงการขนาดใหญ่ยกระดับน้ำฝายแม่ยมใช้งบประมาณสูงถึง 700 ล้านบาทกั้นแม่น้ำยมซึ่งจะใช้งานได้ในปี 2566 จะเห็นว่าแพร่มีการเตรียมแหล่งนี้เพื่อรองรับปัญหาความแห่งแล้งและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น พื้นที่รับประโยชน์นับ 100,000 ไร่
