ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ กรณีฆ่าผู้นำหมู่บ้าน รวม 3 ศพที่บ้านทุ่งน้ำใส ตำบลเหมืองหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ร.ต.ท.(ญ.)ธนัญญา เสมอใจ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองแพร่ นำผู้ต้องหาคือนายพิทักษ์ชัย รักสุข อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224. หมู่ 7 ตำบลเหมืองหม้อ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เข้าควบคุมตัวที่ สภ.เมืองแพร่ เพื่อรอทำสำนวนและสอบปากคำเพิ่มเติม. เวลา 15.30 น.นางพิณทิพย์ รักสุข ภรรยาเดินทางมาเยี่ยมพร้อมเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน นานกว่า1 ชั่วโมง หลังจากนั้นได้นำตัวนายพิทักษ์ชัย ผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำ
ช่วงเวลานี้เองที่นายพิทักษ์ชัย. ผู้ต้องหาพยายามที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวจำนวนมาก นายพิทักษ์ชัย กล่าวว่า การกระทำของตนเองนั้นเกิดจากทนแรงกดดันไม่ไหวจากการกลั่นแกล้งเพื่อผลักดันให้ตนย้ายออกจากหมู่บ้าน เป็นการกระทำที่ผู้นำใช้อำนาจกลั่นแกล้งมาโดยตลอด
และขอแก้ข่าวที่สื่อมวลชนออกข่าวว่าตนหลบหนีและพยายามไปฆ่าอัยการที่สำนักงานอัยการจังหวัดแพร่ ความจริงแล้ว. ต้องการไปหาอัยการเพื่อให้พาไปมอบตัวกับตำรวจ เพราะถ้าไปโดยลำพังอาจถูกวิสามัญฆาตรกรรม. กรณีที่นำระเบิดทำเองไปด้วยไว้ใช้ในช่วงคับขัน การเข้าพบอัยการไม่ได้นำระเบิดเข้าไป. ส่วนการกระทำทั้งหมดเกิดจากแรงกดดันจากผู้ใหญ่บ้าน เมื่อดำเนินการแล้วก็รับสารภาพทุกข้อหา
นางพิณทิพย์ รักสุข ภรรยา. กล่าวว่า ครอบครัวถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด พยายามขายบ้านไปอยู่ที่อื่นแต่ก็ยังขายไม่ได้ ยอมรับว่าเป็นทุกข์มากวันเกิดเหตุจะต้องไปจ่ายเงินออมทรัพย์เอง ที่ศาลาเอนกประสงค์ แต่สามีขอไปแทนก็ไม่ได้คิดอะไร มาทราบอีกทีตำรวจมาที่บ้านแต่สามียังไม่กลับเข้ามา ตำรวจแจ้งเหตุให้ทราบรู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าสามีจะก่อเหตุรุนแรงที่ผ่านมาสามีช่วยชาวบ้านมาตลอด ทำงานกับประมงจังหวัดจนที่บ้านเป็นศูนย์สาธิตเศรษฐกิจพอเพียง. ล่าสุดปรับพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์ตามศาสตร์พระราชา. โคกหนองนา ที่ไหนไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นต้องไปช่วย จึงรู้สึกเสียใจมากกับเหตุที่เกิดครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิทักษ์ชัย รับสารภาพทุกข้อหายืนยันยอมรับโทษ โดยมีนายสุวิทย์ เหล่าสกุลทนายความ เข้าร่วมในการสอบสวนทุกขั้นตอน
