บรรยายทางวิชาการ ทิศทางการเมืองไทย และเศรษฐกิจไทยในอนาคต หวดรัฐบาลทหารทำประเทศล้มเหลวทางเศรษฐกิจกระตุ้นนักศึกษาแสดงความคิดเห็น
เวลา 09.00 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดเวทีบรรยายทางวิชาการเรื่อง ทิศทางการเมืองไทยและเศรษฐกิจไทยในอนาคต ให้กับนักศึกษาสาขาการจัดการและสาขารัฐศาสตร์ ฟังที่ห้องประชุมโพธิวงศาจารย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 60 คน
นายธนากรกล่าวถึงการเมืองไทยที่มีการตัดตอนโดยทหารเข้าแทรกแซงการเมืองการปกครองอย่างต่อเนื่อง และการใช้สื่อสมัยใหม่ในการสร้างข่าวลวงโจมตีฝ่ายตรงข้าม จากอดีตที่ผ่านมามีการทำรัฐประหารมาอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์ในอดีตก็ใช้วิธีสร้างข่าวลวง เช่น ในเหตุการณ์ 14 ตุลา เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ในปัจจุบันกลยุทธ์ดังกล่าวยังดำรงอยู่ มีประชาชนคนเล็กคนน้อยที่ไม่พอใจการกระทำของชนชั้นปกครอง
สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ปัญหาใหญ่ของประเทศ ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเมืองคือศูนย์รวมอำนาจ สิ่งที่เห็นชัดคือความเหลื่อมล้ำของประชาชน คน 700,000 คน มีทรัพย์สินเท่ากับทรัพสินของคนไทยที่เหลือ คน 10% ถือครองที่ดิน 70-80 % ของประเทศ การเติบโตค่าแรง GDP แสดงถึงเศรษฐกิจโตขึ้น แต่รายได้ไปอยู่ในมือคนกลุ่มน้อย สวัสดิการของประชาชนไม่มีจากรัฐบาลทหารในขณะงบประมาณกองทัพสูงมาก ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่คอร์รัปชันเพิ่มขึ้น สาเหตุมาจากการออกกฎหมายกุมอำนาจ ความจริงแล้วถ้าเพิ่มอำนาจให้ประชาชน ปัญหาคอร์รัปชันก็จะลดลง สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งสิ้น
นายธนาธร ใช้เวลาบรรยายถึง 3 ชั่วโมง โดยได้รับความสนจากนักศึกษาที่เข้าฟัง ซึ่งในช่วงบ่าย จะลงพื้นที่พบประชาชนชาวแพร่ที่ประสบปัญหา เป็นการเรียกเสียงสนับสนุนหรือคะแนนนิยมให้กับพรรคอนาคตใหม่ โดยขณะนี้การคัดเลือกแบบไพรมารีโหวตจากสมาชิกที่สมัครเลือกตั้ง ส.ส.ไว้แล้วทั้งเขต 1 และเขต 2 แต่ยังไม่มีการลงคะแนนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจังหวัดแพร่ เขตเลือกตั้งลดลงจาก 3 เขต เหลือ 2 เขตเท่านั้น ทำให้การแข่งขันสูงมาก กลุ่มการเมืองขั้วเดิมคือพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการแบ่งเขตทำให้นักการเมืองในสังกัดดังกล่าวต้องแยกย้ายหาพรรคสังกัดใหม่ รวมทั้งพรรคเครือข่ายพรรคเพื่อไทย นอกจากนั้นยังมีพรรคการเมืองใหม่ๆ ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่แล้ว อาทิ พรรคพลังธรรมใหม่ พลังประชารัฐ พรรคพลังสังคม โดยเฉพาะนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.เพื่อไทยไปอยู่พรรคไทยรักษาชาติ การเมืองในจังหวัดแพร่เริ่มคึกคักเป็นพิเศษในช่วงนี้ แม้ว่ากฤษฎีกาแบ่งเขตยังไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการก็ตาม
