ชาวบ้านนาตองนำเหล้ากลั่นชุมชนเข้าเมือง สรรพสามิตไล่สกัดขับปิกอัพหลวง ชนรถเครื่องอย่างเหี้ยม ชาวบ้านนาตองสะโพกหลุด ขาหัก แถมถูกปรับ 30,000 บาท จี้ผู้บาดเจ็บให้การตำรวจขับรถล้มเอง
เหตุการณ์เจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดแพร่ทำเกินกว่าเหตุไล่สกัดชาวบ้านนาตองตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ใช้รถของทางราชการพุ่งเข้าชนจนรถมอเตอร์ไซค์เสียหลักได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงต้องการจับกุมสุราขาวหนีภาษี
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23:30 น.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ขณะที่นายสมบัติ แผ่นทองและนางสายพิณ แผ่นทอง เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์คนละคันจากบ้าน หมู่ที่ 8 บ้านนาตอง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เพื่อเข้ามาสู่ย่านชุมชนในตำบลช่อแฮ นำสุราขาวมาส่งลูกค้า ระหว่างเดินทางตามเส้นทางสายบ้านนาตอง _ วัดพระธาตุช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ รถจักรยานยนต์คันที่นางสายพิณเป็นผู้ขับนำสุรากลั่นชุมชนจากบ้านนาตองลงมาพร้อมด้วย รถจักรยานยนต์ของสามีคือนายสมบัติ เดินทางมาถึงบริเวณทางแยกเข้าวัดพระธาตุดอยเล็งพบเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพยายามใช้รถยนต์เข้าประกบเพื่อจับกุม ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาหันรถกลับ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตใช้รถยนต์มากกว่า 2 คันขับเบียดรถจักรยานยนต์จนตกข้างทาง จักรยานยนต์ของนายสมบัติเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาป้ายจราจร จักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย นายสมบัติได้รับบาดเจ็บสาหัสขาด้านซ้ายหัก กระดูกสะโพกหลุด พร้อมทั้งควบคุมนางสายพิณได้ พบว่านางสายพิณมีสุราไว้ในครอบครองถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตปรับ ณ ที่เกิดเหตุเป็นเงิน 30,000 บาท ส่วนนายสมบัติที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสตรวจค้นแล้วไม่มีของกลาง สรรพสามิตรที่ก่อเหตุพยายามแก้ปัญหาโดยการนำผู้บาดเจ็บและจักรยานยนต์ชำรุดออกจากที่เกิดเหตุ
ระหว่างนั้น จุดเกิดเหตุอยู่หน้าร้านอาหารไร่ธนโชติ หมู่ 6 ต.ช่อแฮ นายวิชิต ทุ่งส่วย เจ้าของไร่ธนโชติ มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ได้แสดงตัวและให้หยุดการกระทำของสรรพสามิตในการขนย้ายวัตถุพยานออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การเกิดอุบัติเหตุจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฏหมาย จึงได้แจ้งเหตุไปยังหน่วยกู้ชีพท้องถิ่นและตำรวจ สภ.ช่อแฮ เพื่อช่วยผู้บาดเจ็บและบันทึกร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุเพื่อเข้าสู่การคุ้มครองตามกฏหมายต่อไป
หลังเกิดเหตุ นางตุ้ม น้องสาวของนายสมบัติผู้ได้รับบาดเจ็บเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเวร ที่ สภ.ช่อแฮ ทำให้ทางสรรพสามิตรติดต่อขอให้ถอนแจ้งความกับนายสมบัติ แต่ปรากฏว่าทั้งครอบครัวผู้บาดเจ็บมีความเห็นร่วมกันว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ความรุนแรง จึงไม่ยอมถอนแจ้งความ เพราะเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ต่อประชาชนที่รุนแรงเกินไป
ล่าสุดนายสมบัติอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลแพร่ มีภรรยาไปเฝ้าส่วนน้องสาวต้องมาเป็นธุระในการดำเนินคดีซึ่งต้องทิ้งบ้านและสัตว์เลี้ยงไว้ตามยถากรรมโดยทางสรรพสามิตไม่สนใจในการกระทำของตนเอง ปฏิบัติการจับกุมที่รุนแรงขึ้นของสรรพสามิตอาจมาจากเนื้อหาของ พ.ร.บ.สุราที่รัฐบาลประกาศใช้ใหม่ก็เป็นได้
