กระแสก้าวไกลแรงขึ้นทุกวันขณะผู้สมัคร 3 เขตถูกปรามาสจากนักการเมืองเก๋าว่า “NO NAME” หนานทูร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 แพร่ ก้าวไกล นำทีมขอคะแนนเข้าสภาฯ ยืนยันพัฒนาถึงฐานรากชุมชน เศรษฐกิจพึ่งพากัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ ถึงสถานการณ์หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้ผู้สมัครในพรรคต่างๆ ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งจังหวัดแพร่ ไม่ใช้วิธีเปิดปราศรัยใหญ่ แต่ควักกลยุทธเดินหาเสียงในชุมชนมากกว่า ซึ่งพบว่ามีการนำนโยบายไปอธิบายให้กับชาวบ้านในชุมชนอย่างทั่วถึงทุกซอกทุกมุม ทั้งซีก อนักษ์นิยม และ กลุ่มที่เรียกตนเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” หรือเสรีนิยม
ซึ่งทำให้เสียงประชาชนแตกออกเป็น 2 ส่วน กลุ่มแรกยังคงต้องการพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเพื่อให้สานต่อนโยบายพัฒนาต่ออีกสมัย “ทำแล้ว ทำอยู่ และทำต่อไป”ในกลุ่มอนุรักษ์นิยม กลุ่ม 2 ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่การพัฒนาใหม่ในทิศทางของเสรีนิยม ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มมีพรรคการเมืองที่ต้องแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ในสนามจังหวัดแพร่ มาจับตามฝ่ายเสรีนิยม มีเต็งหนึ่งและอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยเสรีนิยมคือ พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย เขต 1 “หมอทศ” นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ เบอร์ 4 // เขต 2 นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิษฐกุล เบอร์ 7 // และ เขต 3 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เบอร์ 5 ซึ่งพรรคการเมืองที่อยู่ในกลุ่มเสรีนิยมอีกพรรคในจังหวัดแพร่คือ พรรคก้าวไกล ที่กลายเป็นพรรคการเมืองที่ต้องจับตามองจากกระแสโพลหลายสำนักคะแนนนิยมหัวหน้าพรรคมาแรงแซงโค้งทุกพรรค และในสนามเลือกตั้งจังหวัดแพร่ก็เช่นกัน เพราะอยู่ในฐานเสียงของประชาชนกลุ่มหัวก้าวหน้าเสรีนิยม พรรคก้าวไกล เขต 1 นายวิทูรย์ สุรจิตต์ เบอร์ 5 // เขต 2 นายรฐรส เกิดสรรค์ เบอร์ 6 ///และเขต 3 นายภาวัช จันใส เบอร์ 4
“หนานทูร” นายวิทูรย์ สุรจิตต์ เบอร์ 5 พรรคก้าวไกล เขต 1 กล่าวว่า การมาลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้ อยากเห็นการเมืองแบบใหม่ ทำงานตามอุดมการณ์เดิมในการทำงานมาตลอดชีวิตและ อุดมการณ์ของพรรคที่ชัดเจน มีนักการเมืองหน้าเก่าๆ ปรามาสว่า ผู้สมัครพรรคก้าวไกลไม่มีอะไร ไม่มีคนรู้จัก แต่ความจริงแล้วเราทำงานอยู่กับชุมชนมานานกว่า 30 ปี เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาอาชีพของคนฐานราก สร้างโอกาสให้คนเล็กคนน้อย รับรองว่า การทำงานมาทั้งชีวิตเป็นเดิมพันกับการตัดสินใจลงเล่นการเมือง ถ้าอยากเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี พัฒนาอย่างสมดุล ชุมชนเข้มแข็งด้วยเศรษฐกิจเกี้อกูล ตามนโยบายของพรรค คนโนเนมนี่แหละจะทำให้เห็น จะเข้าไปเป็นตัวแทนประชาชนจะทำงานบนฐานของประชาชนอย่างแน่นอน จึงมีความจำเป็นที่ต้องเลือกทั้งคนทั้งพรรค ทำให้ก้าวไกลมีเสียงข้างมากในสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแย่งชิงคะแนนเสียงจากประชาชนของสองซีกอุดมการณ์คือกลุ่มอนุรักษ์นิยม กับกลุ่มเสรีนิยม ในจังหวัดแพร่ ยังต้องรอดูผลคะแนนเพราะดูจะก้ำกึ่งมาก ในขณะเดียวกันกลุ่มเสรีนิยมที่มี พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย กลายเป็นคู่แข่งขันที่ต้องจับตาเมื่อโพลชี้ชัดว่า หัวหน้าพรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะ เมื่อเป็นเช่นนี้กระแสในจังหวัดแพร่ ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทั้ง 3 เขตที่ถูกปรามาสว่า เป็นคนใหม่ในวงการ ไม่มีใครรู้จัก หรือ NO NAME อาจกลายเป็นผู้สมัครที่มีความสำคัญขึ้นมาทันทีก็เป็นได้. และในช่วงเวลา17.00 น.วันที่8 พฤษภาคม คุณช่อ พรรณิกา วานิช ตัวตึงพรรคก้าวไกล จะเดินทางมาช่วยหาเสียงให้กับพรรคก้าวไกลที่ตลาดบวกโป่ง ต.น้ำชำ อ.สูงเม่น และที่ตลาดคลองถมหน้าห้างมาร์คโฟร ในตัวเมืองแพร่เป็นการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายด้วย
