วันที่ 2 ตุลาคมการฟื้นฟูหลังน้ำป่าจากมรสุมกว่า 3 ลูกพาดผ่านจังหวัดแพร่ได้ผ่านไปแล้วมีปริมาณฝนตกทั้ง 8 อำเภอในจำนวน 5 อำเภอทางตอนกลางถึงตอนใต้ของจังหวัดมีปริมาณฝนเกินกว่า 100 มิลลิเมตร และหนักที่สุดอยู่ที่ตำบลต้าผามอกและตำบลบ้านปิน อำเภอลอง ส่งผลให้ ทางรถไฟเสียหายจนรถด่วนพิเศษกรุงเทพฯอภิวัฒน์-เชียงใหม่ ตกราง ถนน สะพานในหมู่บ้านถูกตัดขาดหลายแห่ง เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นจำนวน 30 ต้นส่งผลให้ไม่มีไฟฟ้าใช้ใน อำเภอลองและอำเภอวังชิ้น พื้นที่เกษตรกรรมนับ 1,000 ไร่ถูกน้ำพัดโดยเฉพาะนาข้าวได้รับความเสียหายจำนวนมาก
หลังจากเกิดเหตุในวันที่ 28-30 กันยายน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาดูด้วยตัวเอง กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือ
นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า วันที่ 28 กันยายน แพร่เผชิญสภาพอากาศ 3 สถานการณ์ คือ หย่อมความกดอากาศต่ำ ร่องความกดอากาศ และ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่กระหน่ำเข้ามา ทำให้อำเภอสูงเม่น เด่นชัย เมือง ลอง และ วังชิ้น มีปริมาณน้ำฝนเกินกว่า 100 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลจากที่สูงผ่านร่องน้ำลำห้วยลงสู่แม่น้ำยมระบายไม่ทันเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในส่วนที่เป็นภูเขาเกิดน้ำป่าสร้างความเสียหายอย่างที่เป็นข่าว ในอำเภอสูงเม่นหนีบ้านทรุดพังทั้งหลัง
ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งสำรวจความเสียหายเฉพาะหน้าและแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไปโดยเฉพาะในพื้นที่รุนแรงถนนขาดได้ใช้สะพานแบริ่งไปเสริมเพื่อให้ประชาชนได้เดินทางเข้าออกหมู่บ้านได้ส่วนบ้านเรือนพืชผลเกษตรสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความเสียหายได้วางแผนการช่วยเหลือภายใต้ประกาศภัยพิบัติไปแล้วใน 5 อำเภอเพื่อให้ผู้บริหารในระดับอำเภอสามารถเบิกจ่ายงบประมาณลงไปแก้ไขโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้กับประชาชนบางส่วนที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามระเบียบของทางราชการ ทางจังหวัดได้ระดมจิตอาสาและการบริการเพื่อเสริมในการให้การช่วยเหลือกับประชาชนแล้วในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 2 ตุลาคมสถานการณ์ภัยพิบัติได้เข้าสู่สภาวะปกติฝนหยุดตกปริมาณน้ำในแม่น้ำยมมวลน้ำก้อนใหญ่กำลังไหลผ่านอำเภอวังชิ้นจังหวัดแพร่ไปสู่อำเภอศรีสัชนาลัยและเข้าสู่ตัวเมืองสุโขทัย ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปกับชาวจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดทางใต้สุโขทัยไป
