ชาวช่อแฮเมืองแพร่ ตั้งข้อสงสัยคดีอุบัติเหตุธรรมดา พนักงานสอบสวน สภ.ช่อแฮ ทำคดีนาน 2 เดือนแล้วยังสรุปสำนวนไม่ได้ ขณะผู้เดือดร้อนออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นอยู่นี้คือพฤติกรรมของรถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำเลขทะเบียน 3ฒต 6323 กรุงเทพฯที่มีนายณัฐวุฒิ กันตะกวาง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 3 ชาวตำบลช่อแฮอำเภอเมืองแพร่ ขับรถคันดังกล่าวมาถึงจุดเกิดเหตุบังคับรถข้ามเลนไปด้านขวาชนกับรถเก๋งฮุนไดสีเทา ทะเบียน กท5346 แพร่ ทำให้ นายปิยวัฒน์ กลิ่นสม อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/2 หมู่ 7 ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ คนขับรถฮุนไดถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.40 น วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 จุดเกิดเหตุบนถนนช่อแฮ อยู่บริเวณหน้าสมาคมผู้นำสตรี พัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ คดีดังกล่าว พ.ต.ท.อมร ขว้างแป้น สภ.ช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนในคดีนี้
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมาแล้วกว่า 60 วัน ผลของการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อสรุปสำนวนส่งอัยการจังหวัดแพร่ยังไม่แล้วเสร็จ
ล่าสุด นางรุจิรา กลิ่นสม อายุ 46 ปีอยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 9 ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ภรรยาของผู้เสียชีวิตได้ออกมาเรียกร้องให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดคดี เร่งสรุปสำนวนเนื่องจากเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกด้วยกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ในรถยนต์ปิคอัพและกล้องวงจรปิดของพลเมืองดีที่อยู่ข้างทางใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นภาพชัดถึงการกระทำของรถทั้ง 2 คันไม่น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะสรุปสำนวนว่าใครถูกใครผิดเพื่อนำไปสู่การชดใช้เยียวยาตามกฎหมายต่อไป
นางรุจิรา ตั้งข้อสังเกตว่า การทำคดีของพนักงานสอบสวนไม่มีการกำหนดจุดเกิดเหตุอย่างชัดเจนไม่มีการทำเครื่องหมายหลักฐานการชนบนผิวจราจร ในวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พ.ต.ท.อมร ขว้างแป้น พนักงานสอบสวนนัดไปฟังผลการหาข้อเท็จจริงได้ระบุว่าผู้ตายคือสามีของตนเป็นฝ่ายผิดเพราะทำให้คนขับรถปิคอัพสีดำตกใจจึงหักรถพุ่งไปในเลนขวาจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว นางรุจิรารู้สึกข้องใจกับผลการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่เนิ่นนาน การติดตามคดีทำให้ส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานซึ่งตามกฎจราจรภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดก็น่าจะทำให้ตัดสินใจได้ว่าใครถูกใครผิดไม่ควรให้นานขนาดนี้
ทางด้านพ.ต.ท.อมร ขว้างแป้น สภ.ช่อแฮพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี มีแนวทางสอบสวนหาข้อเท็จจริงด้วยการสืบหาพยานและที่สำคัญคือหลักฐานเชิงประจักษ์ กล้องวงจรปิดที่มีอยู่บริเวณใกล้เคียง ผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดของคู่กรณี และการตรวจพิสูจน์หลักฐานส่งไปพิสูจน์ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการสรุปสำนวนส่งอัยการได้นั้น ต้องรอหลักฐานส่งมาครบถ้วน ซึ่งผ่านมาแล้ว 2 เดือนถือว่ายังไม่นานเกินไป
