กรมศิลปากรที่ 7 รับมอบโบราณวัตถุเข้าตรวจพิสูจน์บริเวณวัดโบราณในพื้นที่ก่อสร้างสถานีรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย สั่งระงับก่อสร้างพร้อมเชิญชวนคืนวัตถุโบราณที่ลักลอบไป ประเด็นปัญหาเวนคืนที่ดินธรณีสงฆ์พื้นที่โบราณสถานถูกขั้นตอนหรือไม่
เวลา 11.00 น วันที่ 22 เมษายน นายพลพยุหะ ไชยรส นัดโบราณคดีชำนาญการ กรมศิลปากร เดินทางไปที่วัดพันเชิง ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ เพื่อรับ “ฆ้องโบราณ” เนื้อทองสัมฤทธิ์ ที่ขุดพบได้บริเวณสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย บริเวณจุดสร้างสถานีรถไฟแพร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่ ฆ้องโบราณดังกล่าวผู้ครอบครองไม่สามารถครอบครองได้จึงนำไปมอบให้วัดพันเชิง ดูแลทางวัดจึงติดต่อสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่และกรมศิลปากรเพื่อส่งมอบของโบราณดังกล่าวให้กับทางราชการ
นายพลพยุหะ ไชยรส นักโบราณคดีชำนาญการ กรมศิลปากร กล่าวว่า ฆ้องดังกล่าวเป็นของรูปทรงเก่าเนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์อยู่ในสภาพเก่าสนิมเขียวกัดกินถึงเนื้อในมีสภาพแตกบางส่วนเนื่องจากความเก่าและแรงกระแทกจากการขุด ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่พบฆ้องโบราณ อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างสถานีรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย จากการบอกเล่าของชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่า “วัดป่าสูง” อยากทราบกระเบื้องดินขออิฐดินเผาพบว่ามีอายุ 500-600 ปี ส่วน ฆ้อง ที่ส่งมอบให้กรมศิลปากรจะต้องตรวจพิสูจน์ว่าอยู่ในสมัยใด ทางกรมศิลปากรจะรายงานให้ทราบเป็นระยะๆ
หลังจากเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรรับมอบวัตถุโบราณแล้วได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่ก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัยเชียงรายเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งขณะนี้ได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราวไว้แล้วรอการตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียดต่อไป
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การเวนคืนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยมีการทำงานล่วงหน้าและออกสำรวจโดยละเอียดซึ่งจุดดังกล่าวชาวบ้านทราบดีว่าเป็นวัดร้างชื่อว่าวัดป่าสูง ในเรื่องของเอกสารสิทธิ์พื้นที่ธรณีสงฆ์ มีการทำผาติกรรมหรือไม่ ซึ่งสำนักพุทธศาสนาควรแจ้งให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือบริษัทที่ปรึกษาทราบว่ามีวัดร้างและควรแจ้งให้กรมศิลปากรเข้ามาตรวจพิสูจน์ก่อนดำเนินการกำหนดเส้นทางก่อสร้างปัญหาเหล่านี้ชาวจังหวัดแพร่กำลังติดตามเพื่อช่วยกันรักษาทรัพย์สินของชาติอันล้ำค่าก่อนถูกทำลายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถ้าพบว่าหน่วยงานใดละเว้นปฏิบัติหน้าที่ก็ควรดำเนินการตามกฎหมายเพื่อเป็นตัวอย่างต่อไป/
