ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดแพร่ วันที่ 28 สิงหาคม สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมลดระดับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว อยู่ในช่วงฟื้นฟูบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ซ่อมแซมวัสดุ เครื่องจักรเครื่องมือที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งถือเป็นความเดือดร้อนครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ซึ่งในอดีตจังหวัดแพร่ถูกน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ. 2538 ในปีนี้มีระดับน้ำใกล้เคียงกัน ในขณะที่สถานการณ์ฝนตกหนัก ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง 06.00 น.วันที่ 28 สิงหาคม มีน้ำป่าออกจากห้วยแม่ก๋อน แม่สาย ต้นน้ำอยู่ที่บ้านนาตองไหลสู่ตัวเมืองแพร่ บริเวณหลังพระธาตุช่อแฮ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าระวัง เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง
เวลา
ท่ามกลางวิกฤต น้ำยมเพิ่มระดับท่วมจังหวัดแพร่ 6 อำเภอสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว พบพลังทางสังคมที่เข้มแข็งระดมทุนทรัพย์และกำลังคนช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาสาสมัครล้างบ้าน การกู้ชีพในขณะน้ำท่วม อพยพผู้ป่วย และที่สำคัญคือการดูแลผู้ติดอยู่ในพื้นที่อุทกภัย โดยเฉพาะการส่งอาหารและน้ำดื่มเพื่อให้ทุกชีวิตที่ติดอยู่ในน้ำได้รับประทานอาหารทุกมื้อ มีทั้งองค์กรขนาดใหญ่ ไปจนถึงประชาชนทั่วไปต่างเสียสละเวลาออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างน่าชื่นชม
กลุ่มเพื่อนร้านอาหารกุ้งวังน้ำยม อ.สูงเม่น จ.แพร่ รวมตัวกันรับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธา จากเครือข่ายเพื่อนและผู้ที่สนใจ ประกอบอาหารบรรจุเป็นข้าวห่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอวังชิ้นจำนวน 10 หมู่บ้าน ริมฝั่งแม่น้ำยม
นายเอกชัย ยินดี เจ้าของร้านอาหาร กุ้งวังน้ำยมอำเภอสูงเม่น กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงในรอบ 20 ปี ในฐานะที่เป็นชาวแพร่ อยู่เฉยไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ บรรเทาภัยที่เกิดขึ้น จึงได้บอกบุญเพื่อน ๆ ที่เป็นนักเรียนรุ่นเดียวกัน ญาติ ๆ จากต่างจังหวัด หรือเพื่อนร่วมงานของเพื่อน ๆ ระดมเงินมาทำอาหารไปมอบให้ชาวบ้านที่ประสบภัย โดยนำไปมอบให้ถึงมือโดยตรง พบว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ขาดอาหารและที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังพบว่า ผู้ประสบภัยต้องสู้กับสถานการณ์หลายเรื่อง บางคนไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการเลยเนื่องจากเป็นบ้านที่ไม่มีบ้านเลขที่จึงไม่อยู่ในข่ายการช่วยเหลือ สิ่งเหล่านี้น่าอนาถมากกับระบบราชการที่ไม่ได้มองผู้ประสบภัยเป็นเกณฑ์แต่มองที่ระเบียบจ่ายได้อย่างไรมากกว่า ดูแล้ว ระบบดูแลผู้ประสบภัยของจังหวัดแพร่ยังไม่มองเรื่องสิทธิมนุษยชน ยังไม่ให้ความเท่าเทียมต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คนที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือถึงกับน้ำตาตก นี่แหละเป็นแรงบันดาลใจให้คนแพร่ต้องออกมาช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหาดรั่ว ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น พบมีผู้ตกสำรวจไม่ได้รับการช่วยเหลือ มากกว่า 3 ครอบครัว นางป๊อบ แสนหิ่ง อายุ 25 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ บ้านอยู่ริมแม่น้ำยม ผู้ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการรายหนึ่ง กล่าวด้วยน้ำตาว่า “ทางการไม่นำข้าวกล่องมาแจกให้ต้องอดอาหารหลายวัน เนื่องจากบ้านไม่มีบ้านเลขที่ จนน้ำลดจึงมีผู้ใจบุญเข้ามาบริจาคน้ำและอาหารจึงได้รับประทาน นางป๊อบบอกว่า ตนอยู่เพียงลำพังกลับลูกอายุ 5 ขวบ อยู่ติดกับบ้านบิดาในสวนมะนาวริมแม่น้ำยม สามีถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารอยู่ที่ภาคใต้ มีผู้ใจบุญมามอบน้ำและอาหารให้รู้สึกตื้นตันใจมาก” นางป๊อบกล่าว อย่างไรก็ตามในยามวิกฤตระบบราชการในจังหวัดแพร่ ยังเลือกปฏิบัติต่อประชาชน /
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: