นายก อบต.นาพูน จี้ติดเร่งกระบวนการยุติธรรมควานหาตัวมือดีตัดไม้สักขนาดใหญ่ในพื้นที่อนุรักษ์ของชุมชน รวบตัวการใหญ่ยึดรถพร้อมของกลางนำไปจำหน่ายแล้วใน อ.ลอง กลุ่มค้าเฟอร์นิเจอร์ถูกต้องร่วมกันสาปแช่งที่เป็นตัวการสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ชาวบ้านเชื่อแม้แต่ผียังช่วยทำความจริงให้ปรากฏ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ วันที่ 6 ตุลาคม 2567 ถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้ายลักลอบตัดไม้สักขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของชุมชนบ้านเปาปม – ดงยาง หมู่ที่ 7 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ล่าสุด ร.ต.ท.พิตตินันท์ คำศรีวาท พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมกับชุดสืบสวน สภ.นาพูน ใช้การข่าวติดตามหาไม้สักขนาดใหญ่ที่ถูกตัด ซึ่งพบว่ามีการนำไปจำหน่ายในพื้นที่อำเภอลอง โดยทำการติดตั้งเป็นเสาประกอบบ้าน จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดและอายัดของกลางดังกล่าว พร้อมทั้งได้ติดตามรถไถที่ถูกว่าจ้างไปช่วยในขณะที่รถกระบะลักลอบตัดไม้ติดหล่มบริเวณใกล้กับจุดตัดไม้ซื่งเป็นป่าช้าบ้านเปาปม – ดงยาง คนขับรถไถให้การกับพนักงานสอบสวนว่า “นายวันชัย พันธ์สำโรง ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 368 หมู่ 1 ต.แก้ง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ซึ่งนายวันชัย มีกิจการค้าและแปรรูปไม้อยู่ที่บ้านบ่อแก้ว ทำเฟอร์นิเจอร์จากรากไม้ ตั้งโรงงานและโรงค้าเฟอร์นิเจอร์อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 101 เป็นผู้ว่าจ้างให้มาร่วมชักลากไม้ซุง 2 ท่อนและช่วยดึงรถกระบะ 6 ล้อสีฟ้ามีเครนยกไม้ เลขทะเบียน 81-0653 แพร่ โดยมีคนร่วมกับตัดไม้และลำเลียงไม้ออกจากพื้นที่หลายคน เมื่อออกจากพื้นที่ได้นำไปส่งยังลูกค้าที่อำเภอลอง ซึ่งขณะนี้ได้ยึดมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.นาพูนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังติดตามผู้ร่วมกระบวนการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่อนุรักษ์ต่อไป
ล่าสุดนายวันชัย พันธ์สำโรง ถูกตั้งขอหาลักทรัพย์เป็นต้นไม้สักขนาดใหญ่ในเขตอนุรักษ์ของชุมชน พร้อมกับพวกซึ่งกำลังติดตามมาดำเนินคดีทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการตัดไม้สักขนาดใหญ่ในพื้นที่อนุรักษ์ของบ้านเปาปม-ดงยาง ซึ่งได้รับรางวัล “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกณิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันเดียวกันกับที่มีการลักลอบตัดไม้ พฤติกรรมของนายวันชัย ผู้ต้องหาส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่วกับกลุ่มที่มีการทำเฟอร์นิเจอร์จากรากไม้ใน อ.เด่นชัย โดยเฉพาะใน ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กวดขันอย่างเข้มงวด ทำให้กลุ่มผู้ค้าเฟอร์นิเจอร์ต่างภาวนาให้เร่งจับคนร้ายได้เร็วๆ เพื่อลดปัญหา บางรายยังมีหนี้สิน อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ค้าเฟอร์นิเจอร์ในย่านบ้านปางเคาะ ต.ไทรย้อย ยืนยันจะไม่นำไม้ผิดกฎหมายเข้ามาสู่การแปรรูปโดยเด็ดขาด ซึ่งเกรงว่ากระแสข่าวดังกล่าวอาจทำให้ลูกค้าไม่เข้าซื้อเฟอร์นิเจอร์ในร้าน ขอยืนยันความบริสุทธิ์ไม่คิดเอาไม้ผิดกฎหมายเข้าสู่การแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างแน่นอน มันหมดยุคไม้เถื่อนไปแล้ว ส่วนผู้ที่กระทำผิดทางราชการควรดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ค้าเฟอร์นิเจอร์ในย่านนี้พากันสาปแช่งผู้กระทำผิดให้ถูกจับดำเนินคดีโดยเร็ว
นายศิริชัย โตสุวรรณ รองประธานป่าชุมชนบ้านเปาปม – ดงยาง กล่าวว่า หลังจากพบว่ามีการลักลอบตัดไม้ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าดั้งเดิมในพื้นที่สาธารณะที่ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ไว้และส่วนหนึ่งใช้เป็น ฌาปนสถานหรือที่เผาศพของชาวบ้านเปาปมดงยาง มานานกว่า 100 ปีแล้ว หลังเกิดเหตุกรรมการหมู่บ้านและกรรมการป่าชุมชน รวมทั้ง ส.อบต.ในพื้นที่ได้เข้าไปยังพื้นที่ทำการจุดธูปบอกกล่าวกับผีเจ้าบ้านและวิญญาณในป่าช้า ช่วยทำให้ความจริงกระจ่าง ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ถ้าสำเร็จจะเลี้ยงด้วยหัวหมู 1 หัวพร้อมเหล้าแดง 1 ขวด หลังจากที่มีการบนบานบอกผีในป่าช้า ผีป่า เจ้าที่เจ้าทางแล้ว เพียงวันเดียว นายวันชัย ผู้ต้องหาได้เข้าไปยังที่เกิดเหตุและไปทำบัตรประชาชนตกไว้ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับพนักงานสอบสวนติดตามรถไถที่ได้รับการว่าจ้างจากคนร้ายนำไปสอบหาข้อเท็จจริง เป็นจุดเริ่มต้นของความกระจ่างจนนำไปสู่การค้นหาท่อนซุงไม้สักจำนวน 2 ท่อนได้สำเร็จ และออกหมายจับดำเนินคดีต่อคนร้ายได้ นายศิริชัยกล่าวด้วยว่า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อในสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น ทำไมผู้ต้องหาต้องขึ้นไปจุดเกิดเหตุอีกครั้ง และไปทำบัตรประชาชนตก ชาวบ้านเชื่อตั้งแต่วันที่บัตรประชาชนตกที่เกิดเหตุว่านี่คือคนร้าย ผีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทางช่วยดึงบัตรประชาชนให้ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
นายวิเชียร สมฤทธิ์ นายก อบต.นาพูน ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่สาธารณประโยชน์ ได้ขอขอบคุณพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ที่ทำการสืบสวนจนความจริงปรากฏ เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากเพราะป่าไม้ในปัจจุบันเหลือน้อยเต็มที่แล้ว ส่งผลให้เกิดสภาวะโลกร้อน เกิดภัยพิบัติรุนแรง ปีนี้ภัยพิบัติรุนแรงกว่าที่คาดคิดหลายเท่า อยากเรียกร้องเชิญชวนให้ทุกฝ่ายหันมาให้ความสำคัญ กับต้นไม้ โดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชุมชน พื้นที่สาธารณประโยชน์และพื้นที่เอกสารสิทธิ์ของชาวบ้านควรมีการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ ขณะนี้ อบต.นาพูนได้ร่วมกับชาวบ้านอนุรักษ์ต้นไม้มีค่า เช่น ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้ตะเคียน สองข้างทางหลวงหมายเลข 101 ในเขตตำบลนาพูน ปัจจุบันมีความสวยงานมาก อยากขอวิงวอนให้ช่วยกันทำให้ป่าไม้แถบนี้คงอยู่ต่อไปเพื่อดูดซับคาร์บอนในอากาศช่วยสร้างทัศนียภาพ และสร้างอากาศที่ดีตลอดไป นายวิเชียรกล่าว และหลังจากนี้ ชาวบ้านและ อบต.นาพูนจะเข้าขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง/
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- อำเภอตะกั่วทุ่งเลือกตำบลท่าอยู่ เดินหน้าขับเคลื่อนสู่ "ตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง"
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- สงขลา"นายกเเบน"ลงชิง นายก อบจ.สงขลา รวม 3 ทีมเป็นหนึ่งเดียว ชู 10 นโยบายเร่งด่วนทำได้จริง
- นครพนม น้องขวัญ นำทัพกลุ่มนครพนมร่วมใจ เปิดตัว ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: