ใช้เทศกาลตรุษจีนฉุก แต่ไม่ขึ้นราคาดิ่งเหวจนหมดฤดูรุ่น 2 เกษตรจังหวัดแพร่แนะให้รวมกลุ่มใหญ่พัฒนาผลผลิตสู่ผลส้มคุณภาพส่งขายตรงในตลาดอินทรีย์
ส้มเขียวหวาน ผลไม้มีชื่อเสียงของอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ อีกชนิดหนึ่ง มีพื้นที่ปลูกมากกว่า 13,000 ไร่ ในลุ่มน้ำยม ส้มเขียวหวานของอำเภอวังชิ้น สามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกส้มได้อย่างน่าสนใจในอดีตที่ผ่านมา ในฤดูการผลิตส้มเขียวหวานปีนี้เกษตรกรมีส้มจำหน่ายถึง 2 รุ่น คือในช่วงเดือน พฤษภาคม และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นส้มรุ่นที่ 2 ซึ่งส้มรุ่นนี้จะตรงกับเทศกาลตรุษจีนพอดีทำให้ส้มมีราคาดีเป็นพิเศษ รุ่นนี้จึงเป็นความหวังของเกษตรกรที่จะทำรายได้ ทุกปีสามารถจำหน่ายผลส้มในช่วงเทศกาลตรุษจีนขนาดคละกันได้ถึง กิโลกรัมละ 30-40 บาทจากสวน แต่ในปีนี้แม้จะผ่านวันตรุษจีนมาหมาดๆ เป็นเทศกาลที่มีการใช้ส้มในเทศกาล แต่ไม่ได้ทำให้ราคาส้มเขียวหวานของอำเภอวังชิ้นกระเตื้องขึ้นมาเลย ยังคงราคาอยู่ที่ 15-20 บาทเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ได้ราคา 20 บาท / กก. ต้องคัดส้มที่มีสีสวยและขนาดใหญ่ คือเบอร์ 0 จึงจะสามารถจำหน่ายได้ในราคา 20 บาทเท่านั้น
นายวีรชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า เกษตรกรในจังหวัดแพร่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ ไม่ใช่เรื่องของคุณภาพส้ม แต่เกิดจากการปลูกและจำหน่ายของเกษตรการ ที่ไม่รวมกลุ่มกัน ขาดการพัฒนาเทคโนโลยีในการทำให้ส้มมีคุณภาพเท่ากัน ผลส้มของอำเภอวังชิ้นถ้านำไปจำหน่ายในตลาดใหญ่ กทม. เชื่อว่าจะได้ราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 50 บาท ซึ่งในตลาดค้าปลีกใน กทม.ผลส้มมีราคาสูงถึง กก.ละ 80 บาท แต่ทุกวันนี้ถูกกดราคา ตัดราคา อ้างถึงคุณภาพ เช่นสีผิว หรือ แหล่งผลิตที่ไม่ใช่พื้นที่ผลิตหลักๆ ของประเทศ ทางเกษตรจังหวัดแพร่ ได้ทำการส่งเสริมการขายจัดเทศกาลส้มช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนเพื่อสร้างกิจกรรมให้เกิดการรู้จักส้มเขียวหวานวังชิ้นมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถยกระดับราคาได้
ทางออกที่ดีหลังจากนี้ไป พร้อมทั้งโครงการของรัฐที่เข้ามาหนุนเสริม เกษตรกรควรใช้โอกาสที่รัฐส่งเสริมเข้ามารวมตัวเป็นเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อพัฒนาคุณภาพไปพร้อมๆ กัน และ การทำให้ผลส้มสวยเป็นที่ต้องการของตลาดพร้อมทั้งทำอย่างไรให้ผลผลิตส้มทั้ง 13,000 ไร่ เป็นผลผลิตส้มปลอดภัยไปจนถึงส้มอินทรีย์ ถ้าเกษตรกรสามารถรวมตัวกันได้ รับรองว่าการสร้างตลาดใหม่ให้กับส้มวังชิ้น จะทำให้เกษตรกรทำรายได้อย่างงดงาม ปัจจุบันส้มเขียวหวานของอำเภอวังชิ้นสามารถผลิตได้ไร่ละ 2,000 กิโลกรัม ถ้าจำหน่ายในราคา กิโลกรัมละ 50 บาท จะทำให้มีรายได้เข้าจังหวัดไม่น้อยกว่า 1,300 ล้านบาททีเดียว เกษตรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีเริ่มต้นที่เกษตรกรเริ่มรวมตัวกันพัฒนาแปลงปลูกให้ได้มาตรฐาน ตามโครงการเกษตรแปลงใหญ่ นำไปสู่การสร้างคุณภาพผลผลิตในฤดูกาลต่อไป ภายใต้การค้าขายที่เหมาะสม ตัดพ่อค้าคนกลางออกไปจะทำให้ราคาส้มเขียวหวานกลับมามีราคาที่เกษตรกรพอใจอีกครั้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: