แผนปฏิบัติการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่” ครั้งที่ 32 ในพื้นที่ ภ.5 ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ในจังหวัดแพร่
ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว โดยในวันนี้ (6 มีนาคม 2562)
ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) โดย พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พลตำรวจตรี บุญลือ กอบางยาง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และพลตำรวจตรีไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร.ชุดที่ 5,6,7,8 และ 9 และชุดปฏิบัติการ ศปฉช.ตร. ได้ประสานการปฏิบัติกับ พลตำรวจโทมนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, พลตำรวจตรีธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ ผบก.ภ.จว.แพร่, พลตำรวจตรีมาโนช อนันต์ฤทธิ์กุล ผบก.ภ.จว.ลำพูน, พลตำรวจตรีอดุล ดรุณเพท ผบก.ภ.จว.พะเยา และ พลตำรวจตรีวีรชน บุญทวี รรท.ผบก.ภ.จว.ลำปาง พร้อมด้วยเจ้าที่ฝ่ายปกครอง, สำนักงานป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน และหน่วยทหารในพื้นที่ ดำเนินการภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่”ครั้งที่ 32 ปิดล้อมตรวจค้นยึด/อายัดทรัพย์สินของกลุ่มนายทุนเงินกู้ ผู้ต้องหา ในพื้นที่จังหวัด ลำพูน, ลำปาง, พะเยา และ แพร่ รวม 12 เครือข่าย 14 จุดตรวจค้น โดยผลการปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้
1.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นางสาวอรกัญญา อินต๊ะวิน, นางสาวลภัสลดา มังคละ, นายกิตติภพ มังคละ, นายดรเมืองแพร่ หริ่มรักษาทรัพย์ และนางสาววนิดา หริ่มรักษาทรัพย์ ในข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการอำพรางให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
2.ยึด/อายัดทรัพย์สิน ผู้ต้องหา มูลค่า 130 ล้านบาท ประกอบด้วย
2.1 บ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 4 หลัง
2.2 รถยนต์ จำนวน 6 คัน
2.3 อาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก
3.ตรวจยึดโฉนดที่ดิน จำนวน ฉบับ 1,042 เนื้อที่ 1,675 ไร่ 2 งาน 34 ตรว. มูลค่า 836.5 ล้านบาท
พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องทางคดีอีกหลายรายการ
ข่าวน่าสนใจ:
- เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
- สงขลา M79 ถล่มเเคมป์คนงานสร้างเจ้าแม่กวนอิม บาดเจ็บ 3 ราย พื้นที่ อ.เทพา
- จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล UNITHAI-CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง
- มุกดาหาร-เชิญชวนร่วมกิจกรรมเดินวิ่ง "แคแสดรัน ครั้งที่ 2" ณ สะพานมิตรภาพไทย- ลาวแห่งที่ 2
รวมมูลค่าทั้งสิ้น 966.5 ล้านบาท
พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า การยึดทรัพย์และของกลางจากผู้กระทำผิดรวมทั้งทรัพย์จำพวกที่ดินที่ถูกถ่ายโอนจากชาวบ้านกำลังเร่งในการแก้ปัญหาการถ่ายโอนให้กลับไปอยู่กับประชาชนเจ้าของที่ดินโดยเร็ว โดยเฉพาะทรัพย์ที่ยึดได้จากผู้กระทำผิด จะใช้กฏหมายการฟอกเงินทรัพย์ที่ยึดได้คงไม่ได้คืน ในจังหวัดแพร่ มีทั้งสถานเริงรมย์ โรงแรม รถยนต์ ที่ดิน เงินสด อาวุธ นำไปสู่การขายทอดตลาด ส่วนที่ยึดแล้วยังเปิดให้บริการรายได้เหล่านั้นก็จะตกเป็นของแผ่นดิน ขอยืนยันไม่ได้ทำเล่นๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: