องค์กรคุ้มครองสุขภาพเชียงใหม่ จี้ทุกจังหวัดเหนือผลักดันท้องถิ่นตั้งศูนย์ร้องเรียนด้านสุขภาพ 9 ด้าน สอดรับการคุ้มครองทางกฎหมายหลักประกันสุขภาพตามมาตรา 50 (5 ) หลังพบหน่วยร้องเรียนตรวจสอบด้านสุขภาพภาคประชาชนเกิดขึ้นตามกฎหมายน้อยมาก
สืบเนื่องจากการประชุม เครือข่ายประสานงานด้านหลักประกันสุขภาพฯ หน่วยรับเรื่องรองเรียนตามมาตรา 50 (5) และเครือข่ายประชาชนที่อยู่ในกลุ่มทำงาน ชาติพันธุ์ กลุ่มเปลาะบางและผู้พิการ รวม 9 ด้าน ที่โรงแรมเมอร์เคียวเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีภาคประชาชนได้ร่วมกันสรุปบทเรียนการทำงานที่ผ่านมาในการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพที่ยังไม่ก้าวหน้าตามกฎหมายเท่าที่ควร สิ่งที่ทำให้การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าภายใต้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น หน่วยงานรัฐยังไม่ให้ความสำคัญหรือสนใจจัดตั้งองค์กรภาคประชาชนในการตรวจสอบอำนวยความสะดวก เสนอข้อร้องเรียน คือ ศูนย์ประสานงานภาคประชาชนคุ้มครองผู้บริโภคในด้านสุขภาพ ทำให้การพัฒนาสุขภาพไปตามกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ยังไม่มีความสอดคล้องหรือสมบูรณ์เท่าที่ควร
นางอัญชลี สุขใจคำ ศูนย์ประสานงานสุขภาพภาคประชาชน จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การทำงานด้านสุขภาพภาคประชาชนในภาคเหนือ ยังต้องเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในระดับ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้เท่าที่ควร ทั้งในระดับตำบล อำเภอ จังหวัด และรวมทั้งกรุงเทพมหานครที่เป็นเมืองใหญ่ก็มีสภาพคล้ายๆ กัน มีกองทุนฟื้นฟูผู้พิการ การดูแลผู้สูงอายุและอีกหลายๆ หน่วยงาน และหน่วยงานสนับสนุนพร้อมทั้งโอกาสในการทำงานมีข้อนข้างมาก แต่ภาคประชาชนก็ยังเข้าไม่ถึง นางอัญชลี ได้สะท้อนปัญหาที่เกิดมาจาก ศูนย์ประสานภาคประชาชนที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ มาตรา 50 (5 ) ยังไม่ครอบคลุมทุกตำบล เขต อำเภอ แขวง สิ่งที่ทำได้อยากเรียกร้องให้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณหรือการใช้กลไกการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเพื่อเป็นหน่วยงานกระตุ้นให้เกิดศูนย์ประสานงานภาคประชาชนดูแลด้านสุขภาพของคนในท้องถิ่น ซึ่งหน่วยงานที่สามารถทำได้และควรออกมามีบทบาทคือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกจังหวัด กรุงเทพมหานคร กระตุ้นให้เครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดย่อมลงมา เช่น ที่ทำการเขตใน กทม. เทศบาล และ อบต.ในชนบทได้เห็นความสำคัญจัดทำแผนข้อบัญญัติจังหวัดเพื่อให้สามารถจัดตั้งหน่วยงานศูนย์ประสานงานด้านสุขภาพภาคประชาชนให้เกิดได้เร็วขึ้นกว่าที่ภาคประชาชนจะรู้เองทราบเองเป็นเรื่องที่ช้ามาก ควรนำข้อมูลไปเสนอในชุมชนให้เกิดการเคลื่อนไหว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- ชายวัย 62 ยืมมอไซค์เพื่อนจะไปรับแฟนมากินข้าวด้วยกัน เกิดเฉี่ยวชนกับรถพ่วงถูกล้อทับดับคาที่
- บุรีรัมย์ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ชี้ควรเพิ่มหลีกแข่งขันในไทยเชื่อเศรษฐกิจพุ่งแน่นอน (มีคลิป)
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: