ชัยภูมิ – หลังเริ่มเกิดเรื่องไม่ดีมีผู้สูงอายุในหมู่บ้านเกิดสติแตก ก่อเหตุสุดสะเทือนขวัญฆ่าโหดกันตายในหมู่บ้านมาแล้วติดต่อกันถึง 3 ศพ ช่วงเพียงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง 2 รายแรกมีพ่อเฒ่าวัยกว่า 77 ปี ใช้จอบตีภรรยาวัย 68 ปี ดับอนาถคาลานตากข้าว ก่อนผูกคอตัวเองตายตาม จนล่าสุดวันนี้เป็นพ่อเฒ่าวัย 70 ปี อีกรายที่สุดคุมสติอยู่คว้าไม้ฟาดหนุ่ม 19 ปี ที่ชอบมาหาเรื่องไม่เคารพผู้ใหญ่ดับอนาถอีกศพเป็นรายที่สาม!!
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 ร.ต.อ.อัศวิน พรหมนอก รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากทาง 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 79/1 บ้านกุดเหม่ง หมู่ที่ 2 ตำบลชีลอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลชัยภูมิ และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณหน้าบ้านไม้ใต้ถุนสูง พบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย สภาพใบหน้าด้านขวามีเลือดอาบไหลนองนอนเสียชีวิต ไม่สวมเสื้อสวมเพียงกางเกงยีนสีดำ ทราบต่อมาชื่อ นายวรชาติ ชูตระกูล อายุ 19 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 44 บ้านกุดเหม่ง หมู่ที่ 2 ตำบลชีลอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ และใกล้กันบริเวณใกล้ศพผู้เสียชีวิตยังพบไม้ 1 ท่อนขนาดใหญ่ยาวกว่า 1 เมตร เปื้อนเลือดวางอยู่
และที่บริเวณใต้ถุนบ้านเกิดเหตุ พบผู้ประกอบเหตุ ได้นั่งรอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ ทราบต่อมาชื่อ นายธวัช สุขนาแซง อายุ 70 ปี อาศัยบ้านหลังที่เกิดเหตุ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สาเหตุที่ก่อเหตุครั้งนี้ขึ้นเนื่องจากเกิดความสุดทนที่จะคุมสติได้ กับพฤติกรรมผู้เสียชีวิตเกี่ยวกับการชอบมาหาเรื่องไม่เคารพผู้ใหญ่ ที่ตนเองมีอายุมากแล้ว ซึ่งผู้ตายเวลาเมามาแล้วชอบแจกของลับให้ และยังมีพฤตกรรมเข้ามาแอบลักขโมยไก่ในเล้าที่บ้านบ่อยครั้ง ซึ่งก็พยายามบอกสอนในสิ่งที่ทำไม่ดีไปบ่อยครั้ง
และก่อนเกิดเหตพ่อเฒ่ารายนี้ กล่าวอีกว่า พบผู้เสียชีวิตเดินมาบริเวณหน้าบ้านของตน และมีอาการเมามา จึงบอกให้กลับบ้านแต่ทางผู้เสียชีวิตได้แจกของลับ ตนจึงบอกด้วยความหวังดี แต่ผู้เสียชีวิตกลับไม่ยอม กลับวิ่งปรี่เข้าใส่ตนเพื่อชกต่อยทำร้ายร่างกาย จึงเห็นไม้ขนาดใหญ่ที่วางอยู่จึงไปหยิบมาฟาดใส่เพื่อป้องกันตัวแบบไม่หยั้ง จนไม่รู้ว่าใช้ไม้ฟาดใส่ไปกี่ครั้งนับไม่ได้ ก่อนที่หนุ่มวัย 19 ปี รายนี้จะแน่นิ่งไปและเสียชีวิต ก่อนที่จะมีคนในหมู่บ้านวิ่งมาห้าม และหลังก่อเหตุแล้ว จึงยืนรอมอบตัวต่อจนท.ตร.ที่บ้าน
ทางจนท.ตร.ได้สอบถามไปยังน.ส.นภาพร หาญรุก อายุ 44 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชีลอง หมู่ที่ 2 ซึ่งเป็นป้าผู้เสียชีวิตเล่าอีกว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้นั่งกินขนมจีนอยู่ที่บ้านของตน ก่อนที่จะเดินมาเล่นที่บ้านเพื่อนที่ก็มีอาการเมาอยู่บ้าง โดยผ่านบริเวณบ้านหลังเกิดเหตุ ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะมีปากเสียงกันแต่ก็ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร เห็นไล่ตีชกต่อยกันแล้ว ก่อนที่พ่อเฒ่าวัย 70 ปี จะใช้ไม้ฟาดใส่หลานวัย 19 ปี จนเสียชีวิตครั้งนี้ ที่พยายามพาชาวบ้านมาห้าม ก็ไม่ฟังใช้ไม้ฟาดใส่ร่างหลานไปจนนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่จะแน่นิ่งไป และพากันห้ามพ่อเฒ่าวัย 70 ปี รายนิ้ออกมาได้
ขณะที่บรรยากาศชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากัรนเกิดขวัญผวาถึงอาถรรพ์จะกลับมาซ้ำรอยอีกในหมู่บ้านครั้งนี้ด้วย โดนยมีนางทองสมุคร จินเขว้า อายุ 66 ปี ชาวบ้านกุดเหม่ง และนายสมเด็จ ประเสริฐกุล ผช ผญบ. กุดเหน่ง ม.2 ซึ่งเป็นผู้นำชุมชนในหมู้บ้านดังกล่าวเช่นกัน ต่างพากันออกมาดูเหตุการณ์และจับกลุ่มวิพากวิจารณ์กันไปทั่วหมู่บ้าน ถึงความหวาดผวาว่าจะมีอาถรรพ์ของคนในหมู่บ้านกลับมาซ้ำรอยอีกในครั้งนี้ด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เคยเกิดเหตุสุดสะเทือนขวัญของคนในหมู่บ้านที่ไม่เคยมีในหมู่บ้านมาก่อนเลยในรอบกว่า 20 ปี ที่ผ่านมา ที่เคยมีคนในหมู่บ้านเกิดสติแตกก่อเหตุฆ่าโหดกันตายแบบนี้มาแล้วช่วงหนึ่ง ในเมื่อช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ที่มีเหตุติดต่อกันฆ่าโหดกันตาย บางรายอยู่ดีๆ ก็นั่งดื่มดีดีๆ ก็เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุมาแล้วสูงถึง 7 ศพ
และมาในปี 2562 นี้ หลังเมื่อช่วง 20 ปี ก่อนทางชาวบ้านได้เคยไปนิมนต์เกจิดังของจ.ชัยภูมิหรือพระอาจารย์จื่อ มาช่วยทำพิธีล้างอาถรรพ์ให้กับหมู่บ้านไปแล้ว เหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ก็เงียบหายไปนานมาแล้วกว่า 20 ปี แต่มาจนปัจจุบันนี้ กลับมีเหตุการณ์ขวัญผวากลับมาอีกคล้ายๆกัน ซึ่งเมื่อช่วงวันที่ 7 พ.ย.62 ที่ผ่านมา รายแรกมีสองสามีภรรยาวัยดึกที่ฝ่ายสามีอายุ 77 ปี ชื่อนายทอง บัตรศรี อายุ 77 ปี คว้าจอบตีภรรยาตัวเองวัย 68 ปี ชื่อนางหนูพงษ์ บุตรศรี อายุ 68 ปี เสียชีวิตคาลานตากข้าวหน้าบ้านตัวเองในหมู่บ้านติดกันมาแล้ว เหตุเพียงเพราะทะเลาะกันเรื่องตากข้าว และก่อนที่สามีวัย 77 ปี รายนี้จะหนีไปผูกคอตัวเองตายตามที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน
ซึ่งครั้งนี้ทางชาวบ้านและผู้นำชุมชน เองก็กำลังคิดกันอยู่ว่าจะต้องไปหานิมนต์พระเกจิดังในจ.ชัยภูมิ ที่เคยมาทำพิธีให้เมื่อ 20 ปี ก่อนมาช่วยทำพิธีอีกครั้ง น่าจะทำให้เหตุการณ์ในหมู่บ้านสงบลงได้ โดยนายสมเด็จ ประเสริฐกุล ผช ผญบ. กุกเหน่ง ม.2 กล่าวอีกว่า เหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น 2 ครั้งมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตแล้ว รวม 3 ศพ ครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้านว่า ได้มีการทำการก่อสร้างศาลาหมู่บ้านประจำชุมชนขึ้นใหม่ แต่ผู้มาก่อสร้างกลับไปขุดท่อนไม้ที่เคยทำพิธีฝั่งอาถรรพ์ร้ายไว้ในจุดนี้ขึ้นมา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะต้องมีการนำไปให้เกจิดังช่วยกลับมาทำพิธีนำฝั่งกลับไปฝั่งในที่ปลอดภัยกว่านี้ขึ้นใหม่อีกครั้งต่อไปในครั้งนี้ด้วย
ด้าน ร.ต.อ.อัศวิน พรหมนอก รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ หลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ก่อนที่จะได้ควบคุมตัวนายธวัช สุขนาแซง วัย 70 ปี รายนี้ไปสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเพิ่มเติม ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามกฏหมายต่อไป ส่วนร่างผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่จะต้องส่งไปตรวจชันสูตรเพื่อยืนยันสาเหตุการตายที่ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบร่างให้ญาติรับไปดำเนินการตามศาสนาต่อไป
