ชัยภูมิ – ทุกภาคส่วนเร่งเดินหน้าร่วมกันแก้ไขปัญหาเด็กแว้นในระยะยาว เปิดโอกาสให้กลับใจไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำอีก ร่วมโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจกฏจราจร”
( 27 พ.ย.62 ) ที่จ.ชัยภูมิ หลังจากที่ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มีนโยบายปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางการขับขี่รถในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น หรือกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอาชญากรรม หรือความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป ภายในจังหวัดชัยภูมิ อย่างเข้มงวดมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุสุดสลดที่หนุ่ม อบต.แห่งหนึ่งในจ.ชัยภูมิสุดทนพฤติกรรมกลุ่มเด็กแว้นที่ชอบออกมารวมตัวจับกลุ่มแข่งแว้นกันเสียงดังที่หน้าบ้านเป็นประจำ ได้ตัดสินใจนำอาวุธปืนสั้นมาตามไล่ยิงเด็กแว้นเสียชีวิตไป 1 ราย และทางจ.ชัยภูมิได้พยายามหาแนวทางที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเด็กแว้นในพื้นที่ และอยากให้ทุกภาคส่วนออกมาร่วมกันใส่ใจในการแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น
พร้อมด้วยด้าน พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้ดำเนินการสั่งการให้สถานีตำรวจทุกแห่งในพื้นที่จ.ชัยภูมิ รวม 29 แห่ง ในสังกัดเร่งรัดดำเนินการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด โดยเน้นการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น ขนส่ง ฝ่ายปกครอง หรือสถานศึกษาต่างๆ เป็นการเร่งด่วนมาต่อเนื่องอีกด้านด้วยเช่นกัน
และมีการดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางฯ หรือจัดให้มีการแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต สนับสนุนหรือส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้เป็นจำนวนมาก และมีการนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้กระทำความผิดส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ถึงร้อยละ 80 โดยผู้กระทำความผิดที่เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปี จะถูกส่งดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ และศาลได้มีคำพิพากษาไปหมดทุกรายแล้ว ส่วนใหญ่ศาลจะสั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดในการแข่งรถในทางศาลสั่งริบทั้งหมด
ซึ่งในส่วนกรณีผู้กระทำความผิดที่เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ต้องถูกส่งดำเนินคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวฯ กรณีเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี กระทำความผิดเล็กน้อยที่ยังไม่ถือว่าเป็นภัยอันตรายต่อสังคมและเยาวชนนั้นอาจจะสามารถกลับตัวได้ศาลจะใช้วิธีการสำหรับเด็กแทนคำพิพากษาก็ได้ตามกรณีไปมาต่อเนื่องจนปัจจุบัน
ที่ล่าสุดวันนี้ (27 พ.ย. 62) เมื่อเวลา 09.00 น. ด้านนายวรุณ ชำนาญศรีเพ็ชร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายอัครา สุวัฒิกุล ป้องกันจังหวัดชัยภูมิ พ.ต.อ.สุวิจักขณ์ จันทร์เยี่ยม รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ นายประสิทธิ์ กล้าทำ ขนส่งจังหวัดชัยภูมิ นายธนาวุฒิ โพธิ์แก้ว ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดชัยภูมิ จึงร่วมบูรณณาการทุกภาคส่วนร่วมกันให้เกิดการแก้ไขปัญหาเด็กแว้นในพื้นที่ให้ต่อเนื่องเกิดเป็นรูปธรรมให้มากขึ้น
จึงได้ร่วมกันทำพิธีเปิดการอบรม “ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจกฎจราจร” ณ ห้องประชุมสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจัดโดยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ ให้กับเยาวชนที่ถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 70 ราย ตามคำสั่งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ ที่ให้ใช้วิธีการสำหรับเด็กแทนคำพิพากษา ซึ่งหากผู้กระทำความผิดสามารถปฏิบัติตามที่ศาลได้มีคำสั่งและสามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคมได้ ไม่ไปกระทำความผิดซ้ำอีก ศาลก็จะไม่ต้องพิพากษาคดีอีกต่อไป
ทั้งนี้นายวรุณ ชำนาญศรีเพ็ชร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า การจัดการอบรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในคำสั่งของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ ที่สั่งให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 70 ราย ต้องเข้ารับการอบรม เพื่อให้ทราบถึงกฎหมาย และหลักการในการขับขี่ที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้ร่วมใช้ทาง และจะได้ไม่ไปกระทำความผิดซ้ำอีก โดยวิทยากรจากตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ สำนักงานขนส่งจังหวัดชัยภูมิ และจากศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ นอกจากนี้หลังการอบรมตามโครงการดังกล่าวเยาวชนที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป ยังสามารถนำใบรับรองการผ่านการอบรมไปขอทำใบอนุญาตขับขี่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดชัยภูมิ โดยไม่ต้องอบรมซ้ำอีกได้ครั้งนี้ด้วย
และการดำเนินการในครั้งนี้ถือว่าเป็นการร่วมแรงร่วมใจของเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนในการร่วมกันที่จะช่วยกันเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากกระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ขนส่ง สถานศึกษา สถานพินิจ หรือศาล ที่ดำเนินการเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดทั้งหมดได้อย่างเป็นรูปธรรมครบถ้วนตามกระบวนความในการแก้ไขปัญหา และสามารถคืนเยาวชนที่เคยกระทำความผิดให้กับสู่สังคมและครอบครัวอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: