ชัยภูมิ – ล่าสุด ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 1 สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วและมีคำสั่งให้ ผอ.รร.รายนี้ ย้ายออกนอกพื้นที่เพื่อมาประจำสำนักงาน สพป.ชัยภูมิ เขต 1 เป็นการด่วนไว้ก่อนแล้ว ระหว่างรอผลสอบให้เสร็จสิ้นทั้งหมดโดยเร็วในไม่เกินสัปดาห์หน้ารู้ผล เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกบานปลายไปกันใหญ่อีก หลังจะมีกลุ่มชาวบ้านผู้นำชุมชนและตัวแทนผู้ปกครองเด็กนักเรียนศิษย์เก่า พากันเข้าชื่อกันนับร้อยคน จากจำนวนเด็กนักเรียนของโรงเรียนที่มีทั้งหมดกว่า 200 คน เตรียมนัดกันมาออกชุมชนใหญ่ที่รร.เพื่อขับไล่ ผอ.รายนี้ออกจากพื้นที่ใน 24 ชม.ในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.62 นี้
ซึ่งล่าสุดพบหลักฐานข้อร้องเรียนของตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนที่มีการจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันให้เด็กต่อวันนานนับปีที่ผ่านมา หายไปอื้อเฉลี่ยที่มีงบต่อวันกว่าวันละ 5,400 บาท แต่พบมีใบเสร็จหลักฐานจ่ายไม่ถึงอีกเป็นจำนวนมากเฉลี่ยจ่ายซื้ออุปกรณ์มาประกอบอาหารจริงๆ เพียงวันละไม่เกิน 1,200 – 2,800 บาทเท่านั้น
ข่าวน่าสนใจ:
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 พ.ย.62 ต่อกรณีข้อร้องเรียนวอนขอความเป็นธรรมของชาวบ้านผู้ปกครองนักเรียนในต.เจาทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ หลังได้เดินทางเข้ายื่นหนังร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ เพื่อให้นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ
ได้ช่วยเร่งตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เจาทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีการบริหารเงินงบประมาณและรายได้โรงเรียน และโครงการอาหารกลางวันเด็กไม่โปร่งใส ที่มีงบประมาณต่อวันกว่า 5,000 บาท แต่มีการนำไปใช้จ่ายจัดซื้ออาหารกลางวันจริงต่อวันไม่เกิน 1,200 – ไม่เกิน 3,000 ต่อวันบาทเท่านั้น และโดยเฉพาะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ชอบนั่งดื่มสุราในโรงเรียนและในเวลาราชการบ่อยครั้ง และด้านการบริหารการจัดการงบประมาณที่ไม่โปร่งใสของโรงเรียนอีกเป็นจำนวนมากกว่า 12 เรื่อง
ซึ่งทางตัวแทนชาวบ้านผู้ปกครองนักเรียนล่าสุดแจ้งว่า หากหลังการเดินทางเข้าร้องเรียนต่อทางผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.62 ที่ผ่านมา แล้วเพื่อให้มีการดำเนินการย้ายพ้นตำแหน่งผอ.รร.รายนี้ออกจากพื้นที่เป็นการด่วนภายใน 24 ชั่วโมง เพราะจะมีการใช้อำนาจหน้าที่เข้ามาคุกคามสร้างความไม่เป็นธรรมต่อผู้ร้องและผู้ปกครองและเด็กนักเรียนไม่ให้พูดความจริงได้ ซึ่งหากยังไม่เป็นผลในวันนี้ ( 29 พ.ย.62 ) ทางกลุ่มชาวบ้านตัวแทนผู้ปกครองและนักเรียนศิษเก่าของโรงเรียนทั้งหมดกว่า 100 คนจะพากันไปรวมตัวชุมชนเพื่อขับไล่ผอ.รร.รายนี้ที่โรงเรยนดังกล่าวภายในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.62 นี้ จนกว่าจะได้คำตอบ
จนล่าสุดเมื่อช่วงใกล้เที่ยงวันนี้( 29 พ.ย.62 ) ทางด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ ได้มีการประสานงานให้นายธนชน มุทาพร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 (ผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 1)ได้เปิดแถลงชี้แจงต่อการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการด่วนต่อสื่อมวลชน ที่ห้องผอ.สพป.ชัยภูมิ เขต 1 ว่า หลังได้มีการส่งจนท.ที่เกี่ยวข้องของเขตฯ ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นครั้งนี้เบื้องต้นแล้ว
ซึ่งเรื่องกรณีการจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันให้กับเด็กต่อวัน วันละกว่า 5,000 บาท ที่จะจ่ายทุก 10 วันกว่าครั้งละ 50,000 บาท ซึ่งหากมีหลักฐานการจ่ายที่ไม่ตรงความเป็นจริงดังกล่าวเกิดขึ้น ก็ต้องมีการดำเนินการเอาผิดตามมาด้วย ซึ่งเบื้องต้นทาง ผอ.รร.รายนี้ ได้แจ้งว่ามีหลักฐานสามารถชี้แจงได้ ส่วนภาพที่ถ่ายออกมามีอาหารน้อยก็เพราะมีการมาถ่ายภาพก่อนตักอาหารให้เด็กเสร็จเกิดขึ้นเพื่อนำมาร้องเท่านั้นจึงดูมีอาหารน้อย ก็ต้องรอให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงลงไปตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งหากพบความผิดดังกล่าวจริงซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลไม่เอาคนผิดไว้แน่ แต่ต้องรอขั้นตอนที่จะสามารถสรุปผลชัดเจนได้ในอีกไม่เกินสัปดาห์หน้านี้ยืนยันให้ชัดเจนอีกครั้งก่อน
ที่ต้องว่ากันตามขั้นตอนระเบียบราชการ ที่อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจเรื่องนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่มีใครนิ่งนอนใจหรือหากมีการทุจริตอาหารกลางวันโรงเรียนไม่มีใครยอมให้มีการทุจริตเกิดขึ้นในพื้นที่เด็ดขาด และในส่วนที่อาจจะมีการบานปลายมีการออกมาชุมชนขับไล่ ผอ.รร.อะไรต่างๆ เกิดขึ้นนั้น เพื่อยุติความขัดแย้งและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ในวันนี้ทาง สพป.ชัยภูมิ เขต 1 จึงเห็นควรและสอบถามไปยัง ผอ.รร.เจ้าตัวรายนี้แล้ว เพื่อขอให้ย้ายตัวเองออกจากพื้นที่มาประจำที่เขตฯ ไว้ก่อนแล้ว เพื่อความสบายใจทุกฝ่ายในครั้งนี้แล้ว
ส่วนเรื่องการดื่มสุราในโรงเรียนนั้น เบื้องต้นไม่หนักเท่าปัญหาอาหารกลางวันเด็ก ที่ยังไม่รู้ได้ว่าตามภาพที่เกิดขึ้นนั้น มีการดื่มหรือไม่ดื่ม เพราะตามภาพที่ปรากฏจากผู้ร้องนั้น วันนั้นเป็นวันที่มีการจัดงานฉลองอาคารหลังใหม่ของโรงเรียน มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ก็มีการทำพิธีเปิดและมีประธานกรรมการสถานศึกษานำเครื่องดื่มดังกล่าวมาวางไว้ให้เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าจะมีการดื่มหรือใครดื่มด้วยหรือไม่ยังไม่ชัดเจนได้ในเรื่องนี้
ซึ่งต้องรอผลสอบข้อเท็จจริงอีกไม่เกินสัปดาห์หน้านี้รู้ผลชัดเจนทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในครั้งนี้ด้วย หากพบผิดจริงก็ต้องมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันทีตามมาด้วยอยู่แล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: